สนธิรัตน์ ยกทีมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประกาศปักธงพื้นที่ภาคใต้ ดัน “นิพิฏฐ์” เป็นขุนพลภาคใต้

สนธิรัตน์ ยกทีมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประกาศปักธงพื้นที่ภาคใต้

สนธิรัตน์ ยกทีมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประกาศปักธงพื้นที่ภาคใต้ ดัน “นิพิฏฐ์” เป็นขุนพลภาคใต้





ad1

วันนี้ (5 ก.พ.65) ที่โรงแรมศิวา รอยัล อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายสันติ กีระนันทน์ นายวัชระ กรรณิการ์ นายอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล ผู้และร่วมก่อตั้งพรรคฯ เข้าร่วมพบปะเครือข่ายและประชาชนผู้ร่วมอุดมการณ์สร้างอนาคตไทยกว่า 100 คน จาก 14 จังหวัดภาคใต้ โดยมี “อุตตม” ร่วมพบปะผ่านระบบซูม 

นายสนธิรัตน์ ประกาศปักธงพรรคสร้างอนาคตไทยภาคใต้ พร้อมเปิดตัว นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นขุนพลพรรคภาคใต้ ด้านนิพิฏฐ์ ประกาศเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่จะขับเคลื่อนเพื่อพี่น้องใต้

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาภาคใต้ในบทบาทการเมืองอีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้เป็นแกนนำในการก่อตั้งพรรคการเมือง ซึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้กลับมาตั้งพรรคการเมืองอีกครั้ง เนื่องจากมองเห็นปัญหาประเทศ และห่วงอนาคตลูกหลาน ต้องการสร้างพรรคการเมืองน้ำดีที่จะนำพาประเทศก้าวข้ามผ่านปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ขอยืนยันพรรคสร้างอนาคตไทยไม่มีขั้ว ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่ซ้ำเติมประเทศ ไม่ได้มาเล่นการเมือง แต่มาทำงานเพื่อประชาชน จะขอทำหน้าที่ประสานรอยร้าวของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่จมลึกในวันนี้ ต้องได้รับการแก้ไข และทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุดของประเทศที่มีทั้งคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ และผู้ที่มีประสบการณ์ระดับประเทศ รวมถึงปราชญ์ชาวบ้านอยู่ในพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งนโยบายเศรษฐกิจของพรรคไม่ได้มองแค่ระดับมหภาค แต่เศรษฐกิจของประเทศต้องหยั่งรากลึกจากฐานราก เพื่อให้ประเทศมีระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กล่าวว่า การขับเคลื่อนการเมืองภายใต้พรรคสร้างอนาคตไทยครั้งนี้ ถือเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่จะขับเคลื่อนเพื่อพี่น้องภาคใต้ โดยมุ่งเน้น 3 หัวใจหลักสำคัญ คือ คนที่มาร่วมอุดมการณ์จะต้องต้องเป็นคนมือสะอาด ตรวจสอบประวัติได้ ไม่สืบทอดอำนาจทายาททางการเมือง ซึ่งหมดสมัยสำหรับภาคใต้ที่จะสืบอำนาจจากพ่อสู่ลูก พี่จากไปน้อง เป็นเครือญาติ ทุกคนในพรรคมีโอกาสเท่ากัน พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีศักยภาพเติบโตและได้เข้ามาทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งไม่คิวยาวเหมือนบางพรรคแน่นอน