ร.พ. วชิระภูเก็ตแถลง ปมทารกกระดูกแขนหักในระหว่างการดูแลของทางโรงพยาบาล

ร.พ. วชิระภูเก็ตแถลงผม ทารกกระดูกแขนหัก

ร.พ. วชิระภูเก็ตแถลง ปมทารกกระดูกแขนหักในระหว่างการดูแลของทางโรงพยาบาล





ad1

นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แถลงกรณีเด็กทารกกระดูกแขนซ้ายหักระหว่างนอนรักษาในโรงพยาบาลว่า ไม่พบร่องรอยฟกช้ำ หรือบาดแผลภายนอก จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุที่ทำให้กระดูกแขนซ้ายของทารกหัก มาจากการห่อตรึงไว้ โดยเฉพาะบริเวณแขนที่หมุนแนบลำตัวค่อนไปทางด้านหลัง และมีแรงกระแทกบริเวณศอกจากการยก-วางทารก สำหรับแนวทางการรักษากระดูกต้นแขนซ้ายหัก แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อรักษาด้วยวิธีการที่ทำให้ทารกสบายตัวมากที่สุด โดยแพทย์ใช้วิธีการใช้ผ้าดามยึดแขนที่หักไว้กับลำตัวเด็กเป็นเวลา 2 -3 สัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องเข้าเฝือก หรือผ่าตัด เนื่องจากกระดูกของทารกจะมีการเชื่อมประสานกันเองและจะนัดติดตามอาการหลังจำหน่ายจากโรงพยาบาล
ทั้งนี้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ขอแสดงความเสียใจ และขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งโรงพยาบาลได้ดำเนินการทบทวนเหตุการณ์เบื้องต้น และตั้งกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อนำมาพัฒนาระบบการดูแลรักษาให้มีคุณภาพและเกิดความปลอดภัยต่อผู้ป่วย
ซึ่งก่อนหน้านั้น นางสาวอัจฉรา จันทราช อายุ 30 ปี อาชีพครูโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต พร้อมสามี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวัน เนื่องจากลูกสาววัย 2 สัปดาห์ มีอาการแขนหัก ขณะที่อยู่ในความดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาล โดย นางสาวอัจฉรา กล่าวว่า ตนคลอดลูกสาวที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังคลอดแพทย์แจ้งว่า ทารกมีภาวะสำลักน้ำคร่ำ ต้องเอ็กซเรย์ปอด ให้ออกซิเจน และ อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลก่อน ส่วนอวัยวะอื่น ๆ ทารกมีสภาพครบสมบูรณ์ทุกประการ อาการโดยรวมไม่น่าห่วง
จนกระทั่งช่วงบ่ายของวานนี้ (6 มิ.ย.) ตนได้ไปเยี่ยมลูกสาวอีกครั้งตามคิวนัด และแพทย์ให้ดูฟิล์มเอ็กซ์เรย์ พร้อมกับแจ้งว่า "ลูกยกแขนไม่ได้ แขนท่อนบนด้านซ้ายหัก" และให้ดูฟิล์มเอ็กซ์เรย์เปรียบเทียบ กับฟิล์มขณะหลังคลอด พบว่า ฟิล์มขณะหลังคลอดปกติ ซึ่งตนตกใจมาก ทั้งเป็นห่วงลูกและสงสัยว่า เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร จึงพยายามซักถามรายละเอียด แต่ได้รับคำตอบว่า "ทางโรงพยาบาล ต้องประชุมสรุปสาเหตุเรื่องนี้อีกครั้ง" ส่วนเรื่องแนวทางการรักษา หรืออื่นๆ ทางโรงพยาบาลยังไม่ได้ตอบคำถามใดๆ และ นส.อัจฉราและสามีจึงได้แจ้งความไว้กับตร.