ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบคุณตาวัย 70 ร่วมกันยักยอกทรัพย์มูลค่านับล้านบาท

รวบคุณตาวัย 70 ร่วมกันยักยอกทรัพย์มูลค่านับล้านบาท

ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบคุณตาวัย 70 ร่วมกันยักยอกทรัพย์มูลค่านับล้านบาท





ad1

กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอํานวยการ ของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก. 1 บก.ป., พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว และ พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี รอง ผกก. 1 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นําโดย พ.ต.ท.นพพล ปุยะติ สว.กก.1 บก.ป.(ชป.12), ร.ต.ต.สุรพงศ์ จูหลิม รอง สว.(ป.) กก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.1 บก.ป.

ร่วมกันจับกุม นายชัยวัฒน์ หรือชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงบางบอน ที่ 23/2563 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันยักยอกทรัพย์”

สถานททีจับกุม บริเวณลานจอดรถแห่งหนึ่ง ถ.พุทธมณฑลสาย3 แขวงบางไผ่ เขตบางแคกรุงเทพฯ

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากตั้งแต่ปี 2563 ผู้เสียหาย (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ซึ่งทําธุรกิจเกี่ยวกับค้า เหล็กเส้นของเก่า ได้ส่งเหล็กเส้นที่กว้านซื้อจากแหล่งก่อสร้างทั่วไปให้กับ นายชัยวัฒน์ฯ เพื่อขายต่อให้กับ ร้านค้าที่นายชัยวัฒน์ฯ เคยค้าขายกันอยู่ โดยก่อนที่จะทําธุรกิจกัน นายชัยวัฒน์ฯ แจ้งว่าตนเองประกอบอาชีพ ค้าของเก่ารับซื้อของเก่าทั่วไป ส่งให้กับร้านรับซื้อที่รู้จักคุ้นเคยกัน โดยทางร้านดังกล่าวได้ให้ราคาดีกว่าร้านอื่น พร้อมกับยื่นข้อเสนอหากมีพวกเหล็กเส้น อลูมิเนียมเก่ามาขายให้ยิ่งจะทํารายได้ดีกว่าประเภทอื่น นายชัยวัฒน์ฯ ขายได้เท่าไหร่ก็จะได้เงินเท่านั้น แต่จะขอแค่ส่วนต่างเล็กน้อยเท่านั้น ทําให้ผู้เสียหายเชื่อมั่นว่า ถ้าลงทุนในส่วนนี้โดยส่งเหล็กเส้นให้ นายชัยวัฒน์ฯ แล้วจะได้เงินตามที่อ้าง จึงส่งเหล็กเส้นของเก่าที่มีอยู่ ในความรับผิดชอบให้ไปตั้งแต่ปี 2563

ระยะแรกๆ ได้รับเงินตามที่คุยและตกลงกันไว้ แต่พอผ่านได้ไม่กี่เดือนปรากฏว่าเริ่มมีสิ่งผิดปกติ นายชัยวัฒน์ฯ แจ้งว่าทางร้านที่รับซื้อเหล็กเส้นไว้ยังไม่จ่ายเงินบ้าง อยู่ในช่วงโควิดบ้าง ของบางส่วนยังขาย ไม่ได้ ซึ่งผู้เสียหายก็ยังให้เครดิตให้ความไว้วางใจอยู่ระยะหนึ่ง ครั้นเมื่อทวงถามบ่อยครั้งก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง มาโดยตลอด ผู้เสียหายได้ตรวจสอบไปยังร้านรับซื้อของเก่าที่นายชัยวัฒน์ฯ นําของไปขายได้รับแจ้งยืนยันว่า ได้ชําระเงินค่าสินค้าไปให้ทั้งหมดแล้ว เมื่อถามนายชัยวัฒน์ฯ แจ้งว่าบางร้านที่นําไปขายได้จ่ายเงินมาให้บ้าง บางร้านยังไม่จ่าย แต่ก็จะทยอยคืนเงินให้ ท้ายสุดก็ไม่ส่งเงินให้และติดต่อไม่ได้ ทราบว่าถูกหลอก จึงแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ให้ดําเนินคดีกับนายชัยวัฒน์ฯ ในข้อหาร่วมกัน ยักยอกทรัพย์ ทุนทรัพย์ที่เสียหายเป็นเงินประมาณเกือบล้านบาท ภายหลังศาลแขวงบางบอนได้ออกหมายจับ ผู้ต้องหารายนี้ไว้ตามหมายจับที่ 23/2563 ลง 28 ก.พ.63 

และต่อมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.66 ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจ กองบังคับการปราบปรามและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พบตัวนายชัยวัฒน์ฯ ที่ลานจอดรถตรงข้ามโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ถ.พุทธมณฑลสาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ จึงแจ้งข้อหาจับกุมนายชัยวัฒน์ฯ ชั้นจับกุมผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้ถ้อยคําใดๆ ในชั้นจับกุม จึงนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง เพื่อดําเนินคดี

สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธในชั้นจับกุม