“แม่แตงโม” เข้ารับเงินเยียวยาการเสียชีวิตของแตงโมแล้ว ยันดำเนินการทางคดีต่อ

“แม่แตงโม” เข้ารับเงินเยียวยาการเสียชีวิตของแตงโม

“แม่แตงโม” เข้ารับเงินเยียวยาการเสียชีวิตของแตงโมแล้ว ยันดำเนินการทางคดีต่อ





ad1

วันนี้ (9 มิ.ย. 65) เมื่อเวลา 13.00 น.คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน พร้อมด้วย สส.เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เดินทางมาพบว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อเข้ารับเงินเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นเงินจำนวน 110,000 บาท โดยมีการเข้าไปพูดคุยกันนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขา รมว.ยุติธรรม บอกว่า ตั้งแต่แตงโมเสียชีวิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์เงินเยียวยาที่คุณแม่จะได้รับ ซึ่ง ประกอบด้วย
เงินค่าเสียชีวิต 50,000บาท
ค่าปลงศพ 20,000บาท
ค่าอื่นๆ 40,000บาท
รวมทั้งหมด 110,000บาท

โดยเงินจำนวนนี้เป็นช่วงที่คุณแม่ในฐานะผู้เสียหาย ได้ส่งตัวแทนมาติดต่อขอรับเงินเยียวยาตั้งแต่ 2 วันแรกที่คุณแตงโมชีวิต ซึ่งยืนยันว่า เงินก้อนนี้ ไม่มีผลกระทบต่อรูปคดี เพราะเป็นเงินที่ได้ตามหลักของกฎหมาย โดยตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมโดยการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องมีสิทธิ์ได้รับการเยียวยา ไม่ใช่เงินเยียวยาของคู่กรณี เพราะสิทธิที่คุณแม่ได้รับถือเป็นสิทธิของประชาชนทั่วไป

ส่วนเรื่องทางคดีวันนี้ได้ทีการหารือกับคุณแม่ เพื่อชี้แจงการทำงานของดีเอสไอ โดยได้ชี้แจงให้ทราบแล้ว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณแม่
    
ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็จะมีบทสรุปของเรื่องว่าจะเป็นการประมาท หรือการฆาตรกรรม เพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจ ส่วนใครที่มีข้อมูลหรือหลักฐาน ก็ส่งให้ กระทรวงยุติธรรมเพิ่มเติมได้
  
ยืนยันว่าวันนี้ดีเอสไอ ก็ยังรับดูแลเรื่องนี้อยู่ ซึ่งจากการตรวจเส้นทางการขับเรือของกลุ่มผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนมีความสงสัย ในประเด็นเรื่องจีพีเอส และเพื่อตรวจสอบประเด็นที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องขอมาใน 6 ประเด็น จึงลงไปตรวจสอบประเด็นดังกล่าว ซึ่งเป็นการดำเนินการหลังจากที่ร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่รับเรื่องมา และมองว่าหากจะให้เรื่องสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จะต้องมห้แม่มายื่นเรื่องร้องเรียนด้วยตนเอง ในฐานะที่แท่เป็นผู้เสียหายโดยตรง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น

ส่วนจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เพราะคดีฆาตกรรมกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าใครจะเป็นคนฆ่า ใช้อะไรฆ่า ดังนั้นพยานหลักฐานตรงนี้ต้องรวบรวมไว้ ถ้าใครมีหลักฐานก็ส่งมาได้ หากประมวลเรื่องแล้วก็ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ หรือหากคุณแม่จะใช้สิทธิฟ้องศาลเอง แล้วจะนำผลการสืบสวนของดีเอสไอ ไปประกอบการยื่นฟ้อง ก็สามารถทำได้

ก่อนหน้านี้ได้เรียกคนบนเรือมาสอบในประเด็นที่สงสัยหมดแล้ว ส่วนนายอัจฉริยะ ได้ติดต่อไปแล้ว แต่ไม่มา จึงได้ฝาก ส.ส.เต้ ไปบอกว่าให้ใจเย็นๆ
   
ส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะ ปิดประตูตาย ดีเอสไอ แล้วนั้น เลขาฯ ธนกฤต บอกว่า ‘เขาปิดประตู แต่ผมมีลูกกุญแจ และให้คุณแม่มาเปิดเอา’ จากนั้น หันไปถามคุณแม่ว่า คุณแม่จะปิดหรือไม่ ซึ่งคุณแม่ตอบว่า ไม่ปิด