โจ๋สาวคอซองเปิดศึกแย่งผัวบุกตบคู่อรินร.ชั้นม.3ถึงโรงเรียน

โจ๋สาวคอซองเปิดศึกแย่งผัวบุกตบคู่อรินร.ชั้นม.3ถึงโรงเรียน





ad1

ขอนแก่น-นักเรียนหญิงชั้น ม.3 ต่างสถาบันบุกตบนักเรียนหญิงชั้น ม.3 กลางโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเขต อ.หนองสองห้อง   ขณะที่ตำรวจประสานสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย

โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพ จากผู้ใช้ เพจเฟซบุ๊กชื่อ “ชุมชนข่าวขอนแก่น” ที่ได้มีการโพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ เด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.3 บุกตบนักเรียนชั้น ม.3 ต่างสถาบันกลางโรงเรียน โดยมีอีกคนที่มาด้วยกันถ่ายคลิปเอาไว้  พร้อมข้อความระบุว่า “เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 11.40 น. ขณะที่น้องแคท อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 กับ เพื่อนกำลังอยู่ในบริเวณโรงเรียนบ้านหนองแวงยาว ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ได้มี น.ส.พอพาน นามสมมุติ กับ น.ส.ปอปลา ทั้งคู่อายุ 15 ปี ซึ่งทั้งสองได้เป็นนักเรียนอยู่ที่โรงเรียนอมตะวิทยาคม ในอำเภอหนองสองห้อง ได้เข้ามาในโรงเรียนหนองแวงยาว ขณะนั้น น.ส.แคท กับเพื่อนกำลังดูหนังสืออยู่ที่ศาลาในโรงเรียน น.ส.พลอย ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายน.ส.แคท โดย น.ส.เป้ย เป็นคนถ่ายคลิป แต่น้องแคท ไม่สู้และเดินหนีออกมา ก่อนที่พ่อแม่จะทราบเรื่องพาน้องแคท เข้าแจ้งความดำเนินคดี ที่สถานีตำรวจภูธรหนองสองห้องแล้ว และมาร้องขอความช่วยเหลือยังนายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความจังหวัดพล เอาเรื่องกับผู้ก่อเหตุ เพื่อขอให้ช่วยเหลือด้านกฎหมายต่อไป”

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่โรงเรียนบ้านหนองแวงยาว ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยพบกับนางบุญเพ็ง กุดหนองเลา อายุ 44 ปี และนายกิตติศักดิ์ ราชบุตร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.7 บ้านหัวหนอง ต.ดอนดู่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น พ่อและแม่ของ น.ส.แคท (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี  นักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนบ้านหนองแวงยาวพร้อมคณะกรรมการสถานศึกษา พาบุตรสาวเดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียนฯและครูฝ่ายปกครอง  เพื่อแจ้งถึงกรณีที่บุตรสาว ถูกนักเรียนหญิงที่อยู่ต่างโรงเรียนบุกมาทำร้ายร่างกาย จนบาดเจ็บที่ศีรษะ  ที่บริเวณศาลาในโรงเรียนบ้านหนองแวงยาว    

นายกิตตินันท์ ภูศรีฤทธิ์ อายุ 53 ปี ครูฝ่ายปกครองโรงเรียนบ้านหนองแวงยาว  กล่าวว่า เหตุการณ์ที่นักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนถูกนักเรียนหญิงที่อยู่ต่างโรงเรียนบุกเข้ามาทำร้ายถึงในโรงเรียนนั้น ครูประจำชั้น ครูฝ่ายปกครอง และผู้อำนวยการของโรงเรียนทราบเรื่องแล้ว  และเห็นคลิปแล้ว ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะนักเรียนที่บุกเข้ามานั้น ไม่เคารพสถานศึกษา ไม่ให้เกียรติครูอาจารย์  ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีที่บุกมาทำร้ายนักเรียนนั้นแล้วแต่ทางผู้ปกครองของนักเรียนที่เป็นผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไร ทางโรงเรียนสนับสนุนเต็มที่  แต่ในกรณีของการบุกรุกเข้ามาทำร้ายนักเรียนในโรงเรียนที่เป็นสถานศึกษานั้น ไม่สมควร ไม่เหมาะสมจริงๆ ซึ่งอยู่ระหว่างที่ผู้อำนวยการโรงเรียนจะประชุมหารือกันว่าจะดำเนินการเช่นใดต่อไป

ด้านนางบุญเพ็ง กุดหนองเลา อายุ 44 ปี   แม่ของน้องแคท  กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ครอบครัวไม่พอใจเป็นอย่างมาก และไม่ทราบว่า พ่อแม่ของนักเรียนคู่กรณีนั้น ทราบเรื่องหรือยัง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นพ่อแม่ไม่ยอม จึงไปแจ้งความกับตำรวจสภ.หนองสองห้อง ให้มีการสืบสวนสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายกับนักเรียนที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด การแจ้งความ ก็ต้องการให้ตำรวจจับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้าพ่อแม่หรือญาติและครูทราบเรื่องแล้ว พาลูกหลานมาขอโทษก็ต้องดูลักษณะ และกิริยาวาจา และนิสัยของเด็กก่อนว่าจะยกโทษให้ได้หรือไม่ เพราะเชื่อว่าคนก่อเหตุไม่มีสำนึก

ขณะที่น้องแคท กล่าวว่า ตนกับคนก่อเหตุเรียนหนังสืออยู่คนละโรงเรียน โดยคนที่ลงมือทำร้ายร่างกายนั้นชื่อว่า น.ส.พลอย อีกคนชื่อ น.ส.เป้ย  อายุ 15 ปี  เป็นนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองสอง ซึ่งไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน  แต่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากกรณีที่ นายเอ แฟนของน.ส.พลอย แอดมาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กแล้วก็ทักแชทมาทักทาย เหมือนจีบทั้งยังบอกกับตนว่า เลิกกับ น.ส.พลอยแล้ว จากนั้นก็มีการทักทายมาบ่อยรวมแล้วประมาณ 5 วัน จากนั้นก็มีน.ส.พลอยแชทมาต่อว่า และใช้ถ้อยคำรุนแรงหยาบคาย  กล่าวหาว่าตนแย่งผัว อยากได้ผัว  รวมถึงบอกว่าจะมาตบ มาทำร้าย

"ทั้งหมดตนเองไม่ได้บอกพ่อแม่ เมื่อโรงเรียนเปิดเทอมจึงมาเรียนหนังสือที่โรงเรียน ก็มีเพื่อนของน.ส.พลอยทักแชทมาบอกว่า ให้เลิกยุ่งกับผัวของพลอย เพราะถ้าไม่เลิกเรื่องไม่จบ จากนั้น และในขณะที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลา ในโรงเรียน ก็ถูก น.ส.พลอยก็บุกมาที่โรงเรียนและลงมือทำร้ายร่างกาย โดยมีน.ส.เป้ย เพื่อนของน.ส.พลอย นั่งถ่ายคลิปอยู่ใกล้ๆ เมื่อเพื่อนนักเรียนเห็นจึงตะโกนไล่ ทั้งสองคนจึงรีบออกจากโรงเรียนไป ตนจึงรีบไปแจ้งให้ครูประจำชั้นทราบเรื่อง ครูจึงให้กลับบ้านและแนะนำให้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและพ่อแม่ให้ทราบเรื่อง เมื่อพ่อแม่ทราบเรื่องจึงพาเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.หนองสองห้อง เพื่อให้จับกุมน.ส.พลอยและน.ส.เป้ยมาดำเนินการตามกฎหมาย  เพราะตนไม่ได้แย่งผัวใครตามที่ถูกกล่าวหาและถ้าทั้งสองคนมาขอโทษก็ไม่ให้อภัย แต่อยากเตือนว่าอย่าทำแบบนี้กับใครอีก"

ด้าน นายปกาญจน์ นพศรี อายุ 57 ปี ทนายความ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องแคทนั้น  อยากให้ตำรวจมีการสืบสวนสอบสวน นำตัวนักเรียนหญิงที่ก่อเหตุ มาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับใครได้อีก  เพราะการกระทำที่กล้าบุกเข้าไปทำร้ายคนอื่นถึงในโรงเรียนนั้น เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานด้วย  แต่หากนักเรียนหญิงทั้งสองคนรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด และมีสำนึกดีก็ควรมาขอโทษครอบครัวของน้องแคทด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ธีร์ธัชช์ พงษ์สุวรรณ์ ผกก.สภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น  กล่าวว่า  เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทั้งผู้เสียหายและคนก่อเหตุ ต่างเป็นเยาวชน ที่กำลังเรียนหนังสือในระดับมัธยมต้น หลังรับแจ้งความก็ส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่รพ.และมีการสอบสวนฝ่ายผู้เสียหายในเบื้องต้นแล้ว  และได้นัดทีมสหวิชาชีพเพื่อสอบปากคำน้องไว้แล้วเช่นกัน  ซึ่งนัดให้ปากคำทีมสหวิชาชีพในวันที่ 13 ธ.ค.ที่จะถึงนี้  ส่วนคู่กรณีหรือคนที่บุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกายและก่อเหตุในโรงเรียนนั้น

ผู้เสียหายทราบเพียงชื่อเล่น โดยคนลงมือทำร้ายคือ น.ส.พลอย อีกคนที่ไปเป็นเพื่อนชื่อ น.ส.เป้ย  นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนในอ.หนองสองห้อง  ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการสอบสวนผู้เสียหายแล้ว พนักงานสอบสวนจะประสานไปยังโรงเรียนของคู่กรณี เพื่อขอทราบชื่อ ที่อยู่ เพื่อจะเชิญตัวมาให้ปากคำกับสหวิชาชีพ ทั้งจะแจ้งข้อหาด้วย คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ส่วนการบุกรุกสถานศึกษาแล้วไปก่อเหตุนั้น หากโรงเรียนมีความต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ทางโรงเรียนก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจได้