ปศุสัตว์รับตรวจพบ ASF โรคระบาดหมูที่โรงฆ่าสัตว์นครปฐม จ่อทำลายสุกรที่สงสัยว่าเป็นโรค -ประกาศเขตโรคระบาดรัศมี 5 กม.-รายงานองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE)

ปศุสัตว์รับตรวจพบ ASF โรคระบาดหมูที่โรงฆ่าสัตว์นครปฐม จ่อทำลายสุกรที่สงสัยว่าเป็นโรค

ปศุสัตว์รับตรวจพบ ASF โรคระบาดหมูที่โรงฆ่าสัตว์นครปฐม จ่อทำลายสุกรที่สงสัยว่าเป็นโรค -ประกาศเขตโรคระบาดรัศมี 5 กม.-รายงานองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE)





ad1

11 ม.ค.65 นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านวิชาการป้องกัน ควบคุม และกำจัดโรค ASF ในสุกร กล่าวว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เผยข้อมูลว่าพบรายงานสถานการณ์การเกิดโรค African Swine Fever หรือ ASF ในสุกร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญและห่วงใยในเรื่องดังกล่าวฯ ได้สั่งการเร่งด่วนให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานโดยเร็ว ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการตรวจสอบไประยะหนึ่งแล้ว  ซึ่งทางปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการด่วนตรวจสอบสภาวะโรคในพื้นที่เสี่ยง โโยสุ่งตรวจในพื้นที่ที่เลี้ยงสุกรหนาแน่น เมื่อวันที่ 8-9 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 10 ฟาร์ม 305 ตัวอย่างและจากโรงฆ่าสัตว์ 2 แห่ง 4 ตัวอย่าง

โดยในวันที่ 8 ม.ค.65 สุ่มดำเนินการในพื้นที่ราชบุรี เฝ้าระวังและเก็บตัวอย่างจำนวน 6 ฟาร์ม รวม 196 ตัวอย่าง และวันที่ 9 ม.ค.65 สุ่มดำเนินการในพื้นที่นครปฐม เฝ้าระวังและเก็บตัวอย่างจำนวน 4 ฟาร์ม 109 ตัวอย่าง และ 2 โรงฆ่า 4 ตัวอย่าง รวม 113 ตัวอย่าง เพื่อเข้าไปสำรวจโรคและเก็บตัวอย่างจากเลือดสุกรที่ฟาร์ม (blood sampling) และจากบนพื้นผิวสัมผัสบริเวณโรงฆ่าสัตว์ (surface swab) นำไปตรวจหาโรคส่งวิเคราะห์ที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์

ซึ่งผลการวิเคราะห์ตัวอย่างในเบื้องต้นจากจำนวนทั้งหมด 309 ตัวอย่าง พบผลวิเคราะห์เป็นลบจำนวน 308 ตัวอย่างและพบผลบวกเชื้อ ASF จำนวน 1 ตัวอย่าง จากตัวอย่างพื้นผิวสัมผัสบริเวณโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งที่มาจากนครปฐม ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่เข้าสอบสวนโรคทางระบาดวิทยาถึงแหล่งที่มาของสุกรและสาเหตุเพื่อควบคุมโรคโดยเร็วต่อไป เพื่อลดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด

ทั้งนี้ กรมปศุสัตร์ได้ดำเนินการป้องกันการเกิดโรคอหิวาต์สุกรร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ และได้ประสานหารือกีบหน่วยงานภาคีต่างๆเช่น สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ภาคีคณบดี คณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย สัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสุกร และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความร่วมมือในการควบคุมโรคแล้ว 

ด้านการดำเนินการกรณีตรวจพบโรคในประเทศ ทางกรมปศุสัตว์ดำเนินการประกาศเป็นเขตโรคระบาดและมีการควบคุมการเคลื่อนย้ายในรัศมี 5 กม. รอบจุดที่พบโรค และพิจารณาทำลายสุกรที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคหรือมีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยากับฟาร์มที่เป็นโรคและจ่ายค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกทำลาย  ขณะเดียวกันจะต้องแจ้งการพบโรคไปยังองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) เพื่อแจ้งเตือนให้ประเทศสมาชิกทราบ

ซึ่งล่าสุดได้มีการประชุมคณะกรรมการวิชาการป้องกันควบคุมโรค ASF แล้ว เพื่อทราบผลการตรวจพบเชื้อ ASF จาก 1 ตัวอย่างที่เก็บมาจากโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งในนครปฐม จากตัวอย่างทั้งหมดที่เก็บมา 309 ตัวอย่าง โดยยืนยันผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมโรคให้สงบโดยเร็ว กรมปศุสัตว์เห็นควรประกาศประเทศไทยพบโรค ASF และรายงานไป OIE ต่อไป

ท้ายที่สุดนี้ กรมปศุสัตว์ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรในการดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกรมปศุสัตว์โดยเคร่งครัด เพื่อควบคุมโรคให้สงบได้โดยเร็วเหมือนดังที่กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการควบคุมโรคอย่างเช่น โรคไข้หวัดนก และขอเรียนพี่น้องประชาชนให้ทราบว่าสุกรที่เป็นโรค ASF เป็นโรคที่ไม่ติดต่อสู่คนหรือสัตว์ชนิดอื่น ผู้บริโภคยังสามารถรับประทานเนื้อสุกรได้อย่างปลอดภัย โดยจะต้องให้ความร้อนปรุงสุกที่อุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัยหรือพบสุกรป่วยตายผิดปกติ หรือสัตว์ป่วยตายผิดปกติ หรือต้องการความช่วยเหลือจากกรมปศุสัตว์ สามารถแจ้งกรมปศุสัตว์ได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 หรือ Application DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง