สลดรับวันลอยกระทง! ช้างป่าอ่างฤาไนถูกไฟช็อตเสียชีวิตอนาถกลางถนน

สลดรับวันลอยกระทง! ช้างป่าอ่างฤาไนถูกไฟช็อตเสียชีวิตอนาถกลางถนน





ad1

ปราจีนบุรี-สลดรับเทศกาลลอยกระทง! ช้างป่าอ่างฤาไนถูกไฟช็อตเสียชีวิตอนาถกลางถนน เป็นช้างเพศผู้อายุประมาณ 13 ปีน้ำหนักกว่า 1 ตัน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้  19 พ.ย.64 ร.ต.อ.วัฒนพงษ์ จำนงค์อุดม รองสารวัตรเวรสอบสวนสภ.วังตะเคียนอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี   ได้รับแจ้งจากนายชูศักดิ์ แต่งตั้งรัมย์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 21 ต.วังท่าช้าง  อ.กบินทร์บุรี  พบช้างป่าอ่างฤาไน  ถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตบนถนนทางเข้าสวนชาวบ้าน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นพร้อมแจ้งประสานเจ้าหน้าที่ป่าไม้และลงตรวจสอบร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน 

ในที่เกิดเหตุเป็นทางลูกรังเข้าสวนประชาชนซึ่งห่างจากบ้านเรือนประชาชน 1 กิโลเมตร พบช้างป่าเพศผู้อายุประมาณ 13 ปีน้ำหนักกว่า 1 ตัน   นอนตายอยู่กลางถนนลูกรังแดงสภาพถูกไฟช็อตเสียชีวิตโดยมีสายไฟสีดำอยู่ที่งวงของช้างที่นอนหมอบกับพื้นถนน มีชาวบ้านทราบข่าวมามุงดู 20 คน

นายชูศักดิ์ แต่งตั้งรัมย์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 21 ต.วังท่าช้างกล่าวว่า    ตีสองที่ผ่านมา   พี่เมียโทรไปบอกพบเห็นช้างนอนอยู่กลางถนนคาดว่าออกมาหากินและหลับไปหรืออย่างไรไม่ทราบ   ขอให้ออกมาดูด้วย 

จากนั้นตนจึงออกมาดูพบเห็นช้างนอนอยู่กลางถนนจึงใช้ก้อนดินกว้างใส่เพื่อให้ช้างรู้สึกตัวลุกหนีเพราะปกติช้างป่าอ่างฤาไนมักจะออกมาหากินบริเวณนี้แทบทุกคืน ขณะที่โยนก้อนดินใส่ช้าง 1-2 ครั้งช้างก็ยังไม่กระดุกกระดิกตนเองได้ส่องไฟใส่ตัวช้างและส่งเสียงดังเพื่อให้ช้างรู้สึกตัวแต่ก็ไม่รู้สึกตัว 

จึงตัดสินใจเดินเข้ามาใกล้ๆส่องไฟฉายดูพบว่าช้างนอนตายกลางถนนตอนนั้นกลัวก็กลัวแต่ก็ได้โทรบอกผู้ใหญ่บ้านทราบเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้และส่วนอนุรักษ์ กรมทหารพรานที่13 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดังกล่าว

นายเผด็จ ลาทอง ผอ.ทสม.ปราจีนบุรี กล่าวว่า     ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตีสองพบช้างถูกไฟช็อตเสียชีวิตจึงลงมาตรวจสอบพบว่าเป็นช้างป่าจากอ่างฤาไนที่ข้ามฝั่งจาก จ.ฉะเชิงเทรา   พากันมาหากินในบริเวณนี้ และเดินออกหากินมาตามถนนขณะมาถึงที่เกิดเหตุช้างเพศผู้ได้ใช้งวงคว้าสายไฟแรงต่ำที่ชาวบ้านต่อจากบ้านเข้ามาใช้ในสวนเมื่อสายไฟขาดจึงถูกไฟฟ้าช็อตและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ   สร้างความสลดหดหู่ให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่พบเห็นอย่างมาก โดยร่วมกับสัตวแพทย์หญิงสุนิดา วิงวอน สัตวแพทย์ปฏิบัติการสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา

 ร่วมตรวจสอบและขออนุญาตจากร้อยเวรสอบสวนทำการผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายของช้าง ช้างป่าอ่างฤาไนมาจะออกมาหากินในบริเวณนี้จากนี้ไปจะได้ประสานเจ้าหน้าที่อนุรักษ์อ่างฤาไนร่วมกันหาแนวทางป้องกันและผลักดันช้างป่าและทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าที่ออกมาหากินพืชผลการเกษตรของประชาชน และ   จะนำซากช้างไปฝังทำลายที่หน่วยป่าไม้ทุ่งพญาซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใกล้ที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม  ล่าสุดก่อนหน้านี้เมื่อกลางดึกวันที่ 17 พ.ย.   ที่บ้านโปร่งศรีสะเกษ ม.9 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุช้างถูกไฟฟ้าช็อต    ชาวบ้านร่วมกับอาสาสมัครผลักดันช้างป่าอ่างฤาไน20คน   ได้ร่วมกันผลักดันโขลงช้างป่าอ่างฤาไน(ในเขตพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายรอยต่อ 5 จังหวัด จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง)  พากันยกโขลงกว่า70ตัว  ที่ข้ามฝั่งจาก จ.ฉะเชิงเทรา  ข้ามมาหากินไกลถึง จ.ปราจีนบุรี   ในป่าไร่อ้อย  และทุ่งนาที่กำลังตั้งท้องออิกรวงของชาวบ้าน    

โขลงช้างป่ามาหากินในหมู่บ้านแล้วขณะนี้  ไม่ยอมไปทำให้พืชผลการเกษตรของชาวบ้านเสียหายโดยโขลงช้างป่าแยกกันออกหากิน3กลุ่ม  คาดว่าเป็นโขลงช้างป่าที่มาหากินดังกล่าว  ซึ่งในวันนี้หลังแดดร่มช่วงเย็นจะทำการเร่งผลักดันต่อไปสำหรับสาเหตุช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนมักข้ามฝั่งมาหากินที่ จ.ปราจีนบุรี คาดว่าเนื่องจากจำนวนประชากรช้างป่าในพื้นที่เพิ่มสูง ขาดแคลนแหล่งน้ำและอาหาร โดยที่ปราจีนบุรีอุดมสมบูรณ์กว่ามีทั้งไร่มันสำปะหลัง ไร่อ้อย กล้วย ข้าวโพด สวนผลไม้ และแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์