จับคลีนิกเถื่อนเมืองปทุมฯ ลอบตรวจ-ออกใบรับรองโควิด

จับคลีนิกเถื่อนเมืองปทุมฯ

จับคลีนิกเถื่อนเมืองปทุมฯ ลอบตรวจ-ออกใบรับรองโควิด





ad1

ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข เข้าจับกุมคลีนิกเถื่อน ไม่มีใบอนุญาต เปิดรับตรวจและออกใบรับรองการตรวจให้ประชาชนทั่วไป ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ผงะ พบตัวอย่างเลือดและปัสสาวะหลายพันรายการ จัดเก็บไม่ถูกสุขลักษณะ
.
วันที่ 14 ธ.ค. 64 ที่ห้องประชุม บก.ปคม. ศูนย์ราชการอาคารบี ตำรวจสอบสวนกลาง-กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ -อย.- สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี  ร่วมกันแถลงการจับกุมคลินิกเทคนิคการแพทย์ ดี แล็บ อินเตอร์กรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านกระแซง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี  หลังพบว่าคลีนิกแห่งนี้เปิดดำเนินการโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี แต่มีการนำใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากสถานพยาบาลอื่นมาแสดงแก่ผู้มารับบริการเพื่อความน่าเชื่อถือ อีกทั้งเจ้าหน้าที่รวมถึงผู้ให้บริการและผู้ช่วยซึ่งอยู่ประจำคลินิกไม่ใช่แพทย์ หรือนักเทคนิคการแพทย์
.
คลีนิกดังกล่าวให้บริการตรวจสุขภาพ รวมถึงตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 แก่ประชาชนด้วยชุดตรวจ ATK รายละ 500 บาท และออกใบรับรองผลในนามคลินิก โดยมีทั้งที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปมารับบริการการตรวจที่คลีนิก และออกไปให้บริการตรวจตามโรงงานหรือสถานประกอบการต่างๆ ในการตรวจค้นภายในคลีนิกพบว่ามีการจัดเก็บตัวอย่างเลือดและตัวอย่างปัสสาวะจำนวนหลายพันรายการ ไว้ในตู้เย็นโดยไม่ถูกสุขลักษณะ ประกอบกับการตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในคลินิก ทำให้เห็นได้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่กระทำการตามมาตรฐานวิชาชีพเทคนิคการแพทย์และมาตรฐานของสถานพยาบาล และประการสำคัญได้ตรวจพบว่าไม่มีการเก็บขยะติดเชื้อที่เป็นไปตามมาตรฐาน
.
เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ 
1) น.ส.วาสิตา (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดูแลสถานที่ ในความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 
.
2) น.ส.พรนภา (สงวนนามสกุล)เป็นผู้ให้บริการตรวจขณะเข้าทำการตรวจสอบ ในความผิดตามพระราชบัญญัติเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 ฐานประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 
.
พร้อมยึดของกลางที่ใช้ประกอบการกระทำความผิด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป