ตั้งตนเป็นศาลเตี้ย! เด็กวัย 14 ถูกชาย 4 คนรุมซ้อม น้าเด็กตะโกนจะแจ้งความ 1 ใน 4โจ๋สวนกลับ "ส่งสถานพินิจ เดี๋ยวก็ออกมา"

เด็กวัย 14 ถูกชาย 4 คนรุมซ้อมตาย

ตั้งตนเป็นศาลเตี้ย! เด็กวัย 14 ถูกชาย 4 คนรุมซ้อม น้าเด็กตะโกนจะแจ้งความ  1 ใน 4โจ๋สวนกลับ "ส่งสถานพินิจ เดี๋ยวก็ออกมา"





ad1

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.  2565 พ.ต.ต.ประกาศิต พละเดช สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งพบศพเด็กผู้ชายนอนตายปริศนา ในโรงจอดรถ บ้านหลังหนึ่งพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ ตำรวจฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร รพ.วัดญาณฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว บริเวณโรงจอดรถ พบศพด.ช.เขียด(สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 14 ปี สภาพศพนอนตะแคงข้าง นุ่งกางเกงนักเรียนสีดำตัวเดียว หน้าตาปูดบวมมีรอยถูกรัดด้วยเชือกที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง มีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย คาด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชม. จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมส่งสถาบันนิติเวชวิทยา ทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่อย่างละเอียดอีกครั้ง

นายเด่น อายุ 40 ปี เป็นน้าของเด็กที่เสียชีวิต เล่าว่า หลานถูกกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ อู่ซ่อม รถจยย.หน้าปากซอย ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 100 เมตร ทำร้ายหลาน โดยกล่าวหาว่าน้องไปขโมยทอง 1 บาท และเงินสด 3 พันบาท
นายเด่นน้องของเด็ก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณตี 2 แม่ของตนได้ยินเสียงเด็กถูกทำร้าย ร้องทรมานด้วยความเจ็บปวด แม่จึงปลุกตนให้ลุกออกไปดู เมื่อออกไปดู ก็พบว่ามีชายวัยรุ่น 4 คน 1 ใน 4 ชื่อนายพริก ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 25 ปี กำลังยืนล้อมหลานของตนอยู่ โดยพยายามข่มขู่ให้คืนทองกับเงิน บางช่วงก็ใช้มือตบหลานหลายครั้งให้สารภาพ
ตนเห็นท่าไม่ดี จึงขู่ว่าถ้าทำแบบนี้จะไปแจ้งตำรวจ แต่ถ้าเด็กขโมยจริงก็จับส่งตำรวจไป แต่คนก่อเหตุพูดสวนกลับมาว่า “ถ้าส่งตำรวจ ก็ต้องถูกส่งตัวต่อไปสถานพินิจ เข้าไปไม่นาน เดี๋ยวก็ออกมา” ส่วนหลานในขณะนั้นอยู่ในอาการเงียบ ไม่พูดตอบโต้อะไร ตนจึงขู่บอกว่าถ้า ยังไม่หยุดทำร้ายหลาน จะไปแจ้งตำรวจจริงๆ  แต่จากนั้น กลุ่มคนร้ายก็อุ้มหลาน ขึ้นรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าง โดยอ้างว่าจะพาหลานไปเอาทองที่ซ่อนไว้ ตอนนั้นยอมรับว่า คิดว่าหลานเป็นคนขโมยของไปจริงๆ เพราะหลานชาย ปัจจุบันไม่ได้เรียนหนังสือ และเคยมีพฤติกรรมขโมยของ ถูกจับส่งสถานพินิจหลายรอบ จึงไม่ได้แจ้งความกับตำรวจ
จนกระทั่ง มีคนมาเล่าว่า เห็นกลุ่มวัยรุ่นพาหลานนั่งซ้อนท้าย ประกบหน้าประกบหลังมาส่ง ช่วงประมาณ 11 โมงของวันเดียวกัน ก่อนจะพบว่าหลานกลายเป็นศพดังกล่าว ท่ามกลางเสียงวิพากวิจารณ์ว่า ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้
ขณะที่ นายวิทยา อายุ 44 ปี ผู้เป็นพ่อของเด็ก ซึ่งยังอยู่ในอาการโศกเศร้า กล่าวเพียงว่า แม่ของน้องเพิ่งเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ก็ต้องมาสูญเสียน้องอีก ทำใจไม่ได้ เพราะมีลูกคนเดียว และขอให้ตำรวจจับคนร้าย มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน นางติ๋ว อายุ 65 ปี ผู้เป็นย่าของน้องที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากแม่ของหลานเสีย หลานก็ไม่ยอมไปโรงเรียน ตระเวนเร่ร่อนไปทั่วในหมู่บ้าน เหมือนเด็กไม่มีความสุข ขาดความอบอุ่น โดยก่อนเกิดเหตุ นายพริก 1 ในผู้ก่อเหตุ ได้มาถามหาหลาน โดยอ้างว่าหลานไปขโมยทองและเงิน พร้อมทั้งขู่ว่า ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวจัดการเอง จนหลานมาเสียชีวิตดังกล่าว พร้อมทั้งประณามกลุ่มก่อเหตุว่าทำไมถึงขั้นฆ่าแกงกัน
พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ กล่าวว่า เบื้องต้น ให้กำชับ ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งหมด และเร่งติดตามตัวคนร้าย มาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพราะถือเป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เพราะเด็กมีอายุเพียง 14 ปี นอกจากนี้ยังให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานทุกปาก เพื่อเร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป