"ป๋าชู" แฉต่อ จีนขาวคอยส่งชุดข้อมูล "แก๊งจีนเทา ปปง." ลั่นตีงูไม่ตีหลังหัก ต้องตีให้ตาย 3 รอบ

"ป๋าชู" แฉต่อ จีนขาวคอยส่งชุดข้อมูล "แก๊งจีนเทา ปปง.

"ป๋าชู" แฉต่อ จีนขาวคอยส่งชุดข้อมูล "แก๊งจีนเทา ปปง." ลั่นตีงูไม่ตีหลังหัก ต้องตีให้ตาย 3 รอบ





ad1

19 ธ.ค. 2565  นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักธรกิจและอดีตนักการเมือง ซึ่งปัจจุบันกำลัง วิ่ง สู้ ฟัด กับกลุ่มแก๊งจีนเทาที่ใช้ประเทศไทยเป็นที่หากินและฟอกเงิน โดยครั้งนี้นายชูวิทย์ ได้กล่าวถึงกลุ่มแก๊งจีนเทา ปปง. โดยได้รับข้อมูลต่างๆจากกลุ่มจีนขาวเพื่อต่อจิีกซอว์ให้ได้ครบ   รายละเอียดที่นายชูวิทย์ ได้โยงให้เห็นมีดังนี้

"แก๊ง “จีนเทา ปปง.
.
มีคนจีนดีอีกมากที่ทำมาหากินสุจริตในประเทศไทย
.
อย่าไปเหมารวมกับ “จีนเลว”
.
เช่นเดียวกับคนไทย มีดี มีเลว มีชั่ว ปะปนกัน
.
จีนขาวส่งข้อมูลชุดสำคัญเชื่อมโยง “แก๊ง ปปง.” มาให้ผมตลอด รอจังหวะจิ๊กซอว์สุดท้ายได้ครบ
.
ปปง. ขึ้นอยู่กับนายกฯ กลายเป็นเรื่องที่ “โอชะ” ให้ประจานแล่เนื้อ ทั้งก่อนปิดสภา และตอนเลือกตั้ง เพราะปิงชอบอ้างว่า
“ผู้ใหญ่ที่สนับสนุนให้อยู่กินต่อ”
.
อย่างผม ไม่ตีงูแค่หลังหัก แต่งูพิษแว้งกัดแบบนี้ ต้องตีให้ตาย 3 รอบ
.
ส่วนเกมบนดิน เดินหน้าไป ป.ป.ช. วุฒิสภา กรรมาธิการต่างๆ ในสภา ตีฆ้องร้องป่าว
.
หากไม่เชื่อ จะเปิดไตเติ้ลไปเรื่อยๆ เอาหนังตัวอย่างไปดูจนกว่าจะถึงปีใหม่ จัดให้ แก๊งเทา ปปง. โดยเฉพาะ ที่ทำให้คนดีๆ ในองค์กรเขาเสียหาย
.
เริ่มจาก “แก๊งไอ้หม่า” ที่ใช้ชื่อไทย สวมบัตรประชาชนปลอมว่า “สมศักดิ์” อาชีพต้มตุ๋นหลอกคนจีนด้วยกันมาลงทุนธุรกิจใต้ดิน
.
พอมีเงินก็เอาไปซื้อที่ทาง บ้าน คอนโด จากนั้นร่วมมือกับ ปปง. ตลบหลังว่า มีชื่ออยู่ในบัญชี ปปง. ต้องถูกยึดทรัพย์สิน
.
หรือไม่ก็พาเหยื่อจีนมาเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทาง หักหัวคิว
.
ปปง. ตัวใหญ่ชื่อ ปิง รู้จักกันดี ขนาดเรียกไอ้หม่าว่า “ไอ้ตี๋”
.
ส่วนวงการตำรวจ ไอ้หม่าหรือตี๋ของเฮียปิงก็กว้างขว้าง
.
ส่งเลขาจีนสาวสวย (Zhou Xuanyan) ไปพะเน้าพะนอตำรวจ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาหลายที่ ตำรวจใหญ่น้อยรู้จักกันดี
.
มี “ไอ้เต้า” (Yu Yebin) และเมีย (Xie Shen) เป็น “นกต่อ” คอยหาเหยื่อจีนนักธุรกิจ
.
ทั้งสองคนนี้ นั่งรถไปไหนมีมอเตร์ไซค์นำเสมอ
.
จัดงานปาร์ตี้หลอกล่อคนจีนรวยๆ มารวมตัว เมียก็กล่อมเมีย ผัวก็คุยผัว
.
หว่านล้อมให้ลงทุนทำธุรกิจต่างๆ ในไทย อ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่ในวงการเมือง ตำรวจ เอารูปในมือถือโชว์ให้ดู
.
ทำอะไรก็ทำได้ในไทย ทุกอย่างไฟเขียว และให้สองผัวเมียนี้เป็น “นอมินีหรือตัวแทน”
.
เสร็จแล้วตั้งบริษัท หรือซื้อทรัพย์สิน ก็ใช้ชื่อคนจีนที่มี blacklist ติดอยู่ใน ปปง.
.
โดยเพื่อนๆ คนจีนในกลุ่มสองผัวเมียนี้ ล้วนสะสม blacklist ปปง. หมด
.
รายชื่อร่วมกันแชร์ข้อมูลเหมือนสาขาย่อยของ ปปง.
.
เมื่อใช้ชื่อ blacklist ก็ติดกับ โดนขู่ว่าทรัพย์สินทุกอย่างจะต้องตกเป็นของพวกมัน
.
ใช้ตำรวจไปข่มขู่ และทำท่าทางเคลียร์ให้ แต่แท้จริงรู้กัน เจรจานอกรอบ
.
ส่วนหัวหน้าแก๊งไอ้หม่า จะพาตำรวจคนโน้นคนนี้มาตลอดตอนติดต่อ เพื่อให้คนจีนด้วยกันเห็นว่ามีอิทธิพล และด้วยมันพูดภาษาไทยได้จึงได้เปรียบ คนจีนที่ถูกหลอกไม่รู้เรื่อง
.
นอกจากนั้น แหล่งที่โชว์พาวเวอร์สุดๆ คือ “สำนักงาน ปปง.” ที่สะพานหัวช้าง ปทุมวัน ใจกลางเมือง
.
ที่มักจะพาจีนเทา จีนขาว เป็นตัวแทนมาพบ ปิง ให้เห็นว่าสนิทสนม สามารถสั่งถอนเรื่องได้ คืนทรัพย์สินให้ แล้วมาแบ่งเปอร์เซ็นกัน
.
โดยไอ้หม่าเป็นคนนำเงินมาเคลียร์ สดล้วนๆ เดินขึ้นลงสวนทางกับตู้ห่าวบนออฟฟิต ปปง. ชั้น 3 พื้นลิฟต์ไม่เคยแห้งสะเด็ดน้ำ
.
เรื่องราวที่เล่าเป็นเพียงน้ำจิ้ม ให้เห็นว่า “ระบบ” มันผุกร่อนแค่ไหน
.
เมื่อทุกเส้นทางการเงินเรื่อง “ฟอก” ไปจบที่ ปปง.
.
อย่างเมื่อวาน ตำรวจจับ “อั้ม PSV” พร้อมเมีย ดาราเก่า ยึดทรัพย์สิน เงินสด 700 ล้าน เงินหมุนเวียน เดือนละ 7,000 พันล้าน
.
ตำรวจก็ต้องส่งไป ปปง. เรื่องฟอกเงิน
.
แบบนี้ก็ “เรียบร้อยโรงเรียนปิง” เข้าทางตัน
.
ตำรวจจับ ปปง.ปล่อย ให้มันได้ยังงี้สิ
.
เหมือนเด็กวิ่งเล่นเกม “มอญซ่อนผ้า” เอาเงินมาไว้ข้างหลัง ไว้โน่น ไว้นี่ ฉันจะตีก้นเธอ
.
หากใครก็ตามที่ปล่อยให้ทั้งไทยเทา จีนเทาทำกันแบบนี้
.
ต้องเจอ “อดีตไทยเทา” อย่างผมจัดการให้แตกกระเจิง
.
ล้มกระดานให้ได้ คือเป้าหมายสูงสุด"