พึ่งถอดกำไรอีเอ็มไม่ถึง 6 วันกลับมาค้ายาเสพติดอีก แถมใช้โทรศัพท์รุ่นเก่าป้องกันการติดตาม

ึ่พึ่งงถอดกำไรอีเอ็มไม่ถึง 6 วันกลับมาค้ายาเสพติดอีก

พึ่งถอดกำไรอีเอ็มไม่ถึง 6 วันกลับมาค้ายาเสพติดอีก แถมใช้โทรศัพท์รุ่นเก่าป้องกันการติดตาม





ad1

วันที่ 19 ก.ย. 2565  ที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสภ.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก จับกุมตัว นายวัฒนา หรือนายติ่ง ฌานยะดุษณี อายุ 36 ปี บ้านเลขที่19 หมู่ที่2 อยู่ ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ พร้อมด้วยของกลางดังนี้ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบน สีส้ม และสีเขียวปะปนกัน ด้านหนึ่งเรียบ อีกด้านหนึ่งประทับตรา wy แต่ละมัดบรรจุในซองพลาสติกสีน้ำเงินทึบแสงจำนวน 8 ซอง และซองสีชมพูทึบแสงจำนวน 2 ซองชนิดมีซิปรูดปิดปากซอง บรรจุซองๆ ละประมาณ 200เม็ด มัดซองรวมกันด้วยยางรัด ทำเป็นมัดๆ ละ 10 ซอง(ประมาณ 2,000 เม็ด) ห่อหุ้มด้วยกระดาษสาสีขาว และพันด้วยเทปกาวสีดำ จำนวน 20 มัด รวมจำนวนยาบ้าทั้งหมดประมาณ 40,000เม็ด อยู่ในถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่ง และรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส หมายเลขทะเบียน 1ขต 7403 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน,โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ (Oppo) สีขาว ระบบจำนวน 1เครื่อง. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง สีน้ำเงินเข้ม จำนวน 1 เครื่อง
.
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.พบพระ ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.พบพระ จว.ตาก เป็นกลุ่มของนายติ่ง ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.พบพระ จึงใช้เจ้าหน้าที่ฯ อำพรางติดต่อกับนายติ่ง ฯ ทางโทรศัพท์ และแอพพลิเคชั่น LINE ในการติดต่อล่อซื้อยาเสพติด เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายติ่ง คือ นายวัฒนา ดังกล่าว 
.
ยาบ้าชุดนี้มาจากทางเหนือตอนบน และจากพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการวิธีการค้าที่พัฒนามากขึ้น และสถานการณ์การค้ายาบ้าในพื้นที่รุนแรงมากขึ้น ผู้ต้องหาได้ใช้โทรศัพท์มือถือ รุ่นเก่ามาก เพื่อไม่ให้มีการติดต่อในการจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีการหลอกล่อจนสามารถจับกุมได้ 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแจ้งว่า นายวัฒนา เพิ่งถอดกำไรได้ไม่ถึง 6 วัน กลับมาค้ายาเสพติดอีก ซึ่งคดีเดิมก็เป็นคดียาเสพติด แต่พอมาครั้งนี้ มีการพัฒนาในการค้ายาเสพิติดมาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้หลายวิธีการในการจับกุม