ศรีสะเกษสนธิกำลังจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ยึดของกลางเพียบ

ศรีสะเกษสนธิกำลังจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ยึดของกลางเพียบ





ad1

ภายใต้อำนวยการของนายวัฒนา พุทธิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พล.ต.ต. สันติ เหล่าประทาย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ นายสำรวยเกษกุล รอง ผวจ.ศก. , นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ , นายเริงศักดิ์ เกตุจันทึก    ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ  พ.อ.นิสิต สมานมิตร ผบ.ฉก.3 ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ “ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” 

นำโดย พ.ต.ต.วัชรพลเชียงพฤกษ์ สว.อก.สภ.เบญจลักษ์ นายบุญเลิศ วงศ์เจริญ นักทัณฑ์วิทยาชำนาญการ เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ นายสรศิริ จันดีบุตร ปลัดอำเภอ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนอำเภอภูสิงห์ ส.ต.ท. วิษณุ สำเริง ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนอำเภอขุขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ภูสิงห์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ฉก.3 
   


 ร่วมกันจับกุมเครือขายกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่ทำหน้าที่ลำเลียงยาบ้า เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอกันทรลักษณ์  จ.ศรีสะเกษ และคาดว่าจะใช้เส้นทางถนนเส้น 24  อำเภอกันทรลักษณ์ – จังหวัดนครราชสีมา โดยสามารถจับกุมได้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำกะมด  ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 264 และหลักกิโลเมตรที่ 265  อ.ขุขันธ์  จ..ศรีสะเกษ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ขับรถยนด์เข้าสกัดเพื่อแสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ และขอตรวจค้นในรถยนต์กระบะยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่นแรงเจอร์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ขน 1439  ชลบุรี พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 6 ก้อน ( 36,000 เม็ด)

 และขยายผลยึดยาบ้าอีก จำนวน 10 มัด(20,000 เม็ด) บริเวณกอหญ้าข้างหลักกิโลเมตรที่ 328 ถนนเส้น 24 เดชอุดม – นครราชสีมา ขาเข้านครราชสีมา ระหว่างสี่แยกบ้านจานไปสี่แยกการช่าง อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ รวมยาบ้าของกลางทั้งหมด  รวม 56,000 เม็ด ทราบชื่อผู้ถูกจับกุมภายหลัง  ดังนี้


1. นายปรีชา  หรือ ปู มาลัย อายุ 39 ปี ที่อยู่ 42 ม.3 ต. หนองขอน อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 3340101009951 
2. นายอภิรักษ์ หรือรัก มาลัย อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 3 ต.หนองขอน อ.เมืองอุบลราชานี จ.อุบลราชธานี หมายเลขประจำตัวประชาชน 1-3499-01312-26-0
นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 เสนาะ วรรักษ์/รายงาน