รวบคู่รักแสบแก๊งย่องเงียบลักทรัพย์เตรียมขยายผลทั้งขบวนการ

รวบคู่รักแสบแก๊งย่องเงียบลักทรัพย์เตรียมขยายผลทั้งขบวนการ





ad1

กองบังคับการตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม ดังนี้
๑.นายธีรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ ๓๙ ปี 
๒.นางสาวปาริชาต (สงวนนามสกุล) อายุ ๓๐ ปี
กระทำผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ หรือร่วมกันรับของโจร        
 
สถานที่จับกุม บริเวณป่าริมถนนเลียบทางรถไฟ และบ้านพักไม่มีเลขที่ริมถนนเลียบทางรถไฟ ต.ปากท่อ  อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี  

พฤติการณ์ คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 5 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย ชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์  ได้รับประสานว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 4 พ.ย.66 ต่อเนื่อง 5 พ.ย.66 ขณะที่ผู้เสียหายไม่อยู่บ้าน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.พังงา เมื่อกลับมาอีกครั้งพบว่าประตูบ้านโดนงัด  ภายในบ้านโดนรื้อค้น ตรวจสอบพบว่ามีนาฬิกาและเงินจำนวน 10,000 บาท หายไปพร้อมกับกุญแจสำรอง และรถยนต์ กระบะยี่ห้อฟอร์ดสีแดง ทะเบียน บพ 7615 ปราจีนบุรี ก็หายไปเช่นกัน จึงมีการประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงดำเนินการสืบสวนสกัดจับคนร้ายทันที

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวขับมาตามเส้นทาง ที่บริเวณ ทล.4 กม.123 ขาล่องใต้ ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จึงพยายามเรียกให้หยุด แต่เมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับหลบหนีทันที กระทั่งมาถึงบริเวณซอยตัน ถนนเลียบทางรถไฟ ในตัวอำเภอปากท่อ รถคันดังกล่าวได้เฉี่ยวชนคอกเหล็ก และตกหล่มจนไม่สามารถไปต่อได้  คนร้ายในรถจึงตัดสินใจทิ้งรถหลบหนีเข้าป่าไป  เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตามไป และพบ น.ส.ปาริชาตฯ นั่งหลบอยู่ในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ จึงควบคุมตัวไว้

ภายในคืนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากท่อ ปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะได้รับแจ้งจากชาวบ้านในละแวกนั้นว่า มีชายต้องสงสัยเข้าไปหลบภายในบ้าน  จึงรีบไปตรวจสอบพบ นายธีรวิชญ์ฯ คนขับรถคันดังกล่าว หลบซ่อนอยู่ พร้อมทั้งยังเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าของเจ้าของบ้านเพื่อใช้ตบตาเจ้าหน้าที่อีกด้วย จึงเข้าควบคุมตัวไว้
    
จากการสอบถามเบื้องต้น นายธีรวิชญ์ฯ ยังให้การปฏิเสธ และไม่ยอมให้การใดๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นพบตั๋วจำนำทองเป็นชื่อของ น.ส.ปาริชาติฯ ผู้ต้องหาที่มาด้วยกัน  นายธีรวิชญ์ฯ จึงบอกว่า ตนคบหากับ น.ส.ปาริชาติฯ และมีนายเต๊ก (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 27 ปี เป็นรุ่นน้องที่รู้จักกัน ร่วมเดินทางมาในรถคันดังกล่าวด้วยกัน โดยอ้างว่า นายเต๊กฯ เป็นผู้ขับรถกระบะดังกล่าวมารับตนกับแฟนสาว ก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ แต่รายละเอียดอื่นๆตนไม่ทราบเรื่อง

 เมื่อตรวจค้นรถยนต์กระบะฟอร์ด คันที่ถูกขโมยมายังพบว่ามีรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 1กฉ 6343 ประจวบคีรีขันธ์ อีก1 คันบรรทุกอยู่ท้ายกระบะ และมีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เมื่อ 6 พ.ย.66 อีกด้วย
    
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรีจึงได้จับกุมตัว นายธีรวิชญ์ฯ และ น.ส.ปาริชาติฯ ดำเนินคดีในข้อหา 'ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร' พร้อมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันจะเร่งติดตามตัวนายเต๊กฯ และผู้ร่วมขบวนการที่ก่อเหตุลักรถรายอื่นมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป