แจงบ่อขยะแพรกษาEEP เพลิงไหม้ต้นตอจากแบตเตอรีเก่าอากาศร้อนจัด

สมุทรปราการ-จากเหตุการณ์เกิดเพลิงลุกไหมับนลานฝังกลบขยะของบริษัท อีสเทิร์น เอเนอร์จี้ พลัส จำกัด ในซอยขจรวิทย์ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 ช่วง 16.15 น. - 17.10 น. ที่ผ่านมาและได้ควบคุมเพลิงภายใน 1 ชั่วโมง วันนี้

ล่าสุดนายนาวี ฝางคำ ผู้จัดการแผนกความปลอดภัยและอาชีวอนามัย พร้อมด้วยนายจักรพงศ์ ไดรโชค ที่ปรึกษาฝ่ายโครงการ , นายอนุพงศ์ มุทราอิศ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และ น.ส.ชลลดา จิตอนงค์ ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์และกิจกรรมองค์กร ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อรายงานสถานการณ์และต้นเหตุของของเพลิงไหม้ โดยชี้แจงไฟได้ไหม้พื้นที่ฝั่งกลบขยะเก่าด้านทิศใต้ กินบริเวณประมาณ 1,000 ตารางเมตร รวมกว่า 1 ชั่วโมง

หลังจากที่ไฟดับสนิทแล้ว บริษัทได้ส่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจ ตรววสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ เบื้องต้นสาเหตุนั้นเกิดจากการที่มีขยะแบตเตอรี่เก่าหรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ปะปนมากับขยะชุมชนที่เข้ามาทิ้งที่บ่อขยะ วันหนึ่งตก 1,000 ตัน โดยสาเหตุคาดว่าแบตเตอรี่เกิดการลุกไหม้ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนทำให้ขยะเก่าที่ส่วนใหญ่อินทรีย์สารถูกย่อยสลายไปหมดแล้ว เหลือแต่เศษพลาสติก จึงทำ ให้เกิดการคิดไฟรุกขึ้น

อย่างไรก็ตาม เพราะเพลิงไหม้ถุงพลาสติกทำให้มีสีดำ ทั้งนี้ทีมผจญเพลิงของบริษัท ซึ่งได้มีการฝึกซ้อมดับเพลิงเป็นประจำได้รีบนำรถน้ำและถังคับเพลิงเข้าไปควบคุมเพสิงโดยทันทีในที่เกิดเหตุ จากนั้นเพื่อความไม่ประมาทจึงประเมิณประสานกำลังสนับสนุนรถดับเพลิงเพิ่มเติมจาก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ และดับเพลิง เทศบาลตำบลเทพารักษ์ , อบจ.สมุทรปราการ และอีกหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยฉีดน้ำควบคุมเพลิงเพื่อไม่ให้ขยายสู่วงกว้างร่วมกับรถน้ำของบริษัท รวมทั้งสิ้น 9 คัน จนไฟดับสนิทลง ก่อนที่จะน้ำรถแบคโฮ เข้าไปทำการพลิกคุ้ยเถ้าขยะ เพื่อลดอุณหภูมิความร้อน แล้วใช้รถพ่นละอองน้ำของ อบจ.สมุทรปราการ ฉีดพ่นลงบน

กองเถ้าขยะเพื่อลดอุณหภูมิความร้อนที่อาจหลงเหลือ เพื่อไม่ให้เกิดการลุกไหม้ซ้ำก่อนที่ทีมสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) พร้อมด้วยนาย พชร ศศิชาชยามร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ ได้เข้าพื้นที่เพื่อตรวจหาค่าแก็สพิษที่อาจเกิดขึ้นจากการลุกไหม้ พบว่าทั่วทุกพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ไม่มีค่าของแก๊สพิษหลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนน้ำที่เข้ามาดับเพลิงจากทุกภาคส่วนจำนวน กว่า 150,000 ลิตร ได้ทำการตรวจค่าน้ำไม่พบสารป่นเปือน

ทั้งนี้นายจักรพงศ์ ไกรโซค ที่ปรึกษาของบริษัท พร้อมด้วยคณะผู้บริหารร่วมกัน กล่าวขออภัยต่อประชาชนชาวสมุทรปราการ และ ต.แพรกษาใหม่ และในพื้นที่ใกล้เคียงที่ทำให้เกิดความตระหนก บริษัท ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อแต่ประการใดและ จะพยายามป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดซ้ำอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้จะเพิ่มมาตรการในการป้องคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่น่าร้อนจะสกรีนก่อนเข้าและของเดิมที่มีอยู่

ขณะที่นาย พชร ศศิชาชยามร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ ได้แนะนำทางบริษัท อีสเทิร์น เอเนอร์จี้ พลัส จำกัด ให้เพิ่มความถี่ในการระบายแก๊สให้มากกว่าเดิมจากท่อที่มีอยู่กว่า เพื่อไม่ให้เกิดการอบอ้าวกองขยะในช่วงหน้าร้อน