“เปิดฟ้าเขตเศรษฐกิจแม่สอด”เตรียมเปิดประมูลพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก

“เปิดฟ้าเขตเศรษฐกิจแม่สอด”เตรียมเปิดประมูลพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก





ad1

“เปิดฟ้าเขตเศรษฐกิจแม่สอด” เดินหน้าพัฒนาที่ราชพัสดุ เตรียมเปิดประมูลพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก พื้นที่ 1,076 ไร่ ระยะเวลาเช่า 50 ปี ค่าเช่าไร่ละ 36,000 บาท/ปี ปรับปรุงค่าเช่า 15% ทุก 5 ปี คาดเปิดประมูล พ.ค. 2565

หลายปีที่ผ่านมาได้มีการประกาศให้พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก ประกอบด้วย อ.แม่สอด- อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ เป็นพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก(แม่สอด-แม่ระมาด-พบพระ) แต่ยังคงติดปัญหาหลายด้านในการประกาศให้พื้นที่ชายแดนตาก เป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องกฎหมาย,ที่ดิน,ระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ   ซึ่งจะเห็นที่เป็นรูปธรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ อ.แม่สอด คือด่านพรมแดน 2. ,สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2. บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7. ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก  และ ถนน 4 เลน สายตาก-แม่สอด  นอกนั้นเป็นเพียงโครงการต่างๆที่จะตามมา เช่นเส้นทางรถไฟ, เส้นทางพิเศษระหว่างเมือง,เส้นทางมอเตอร์เวย์  ฯลฯ ที่สำคัญคือเรื่องที่ดินในเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการต่อไปเมื่อไร อย่างไร  จนกระทั่งล่าสุดกรมธนารักษ์  กระทรวงการคลัง  ที่รับผิดชอบการจัดสรรที่ดินในเขตเศรษฐกิจ  ได้ประกาศถึงความชัดเจนในการดำเนินการเรื่องที่ดินในเขตเศรษฐกิจแม่สอด

 โดยสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในภารกิจของกรมธนารักษ์ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางด้านการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม  ก้าวสู่การเป็นเมืองหน้าด่านทางเศรษฐกิจสำคัญของ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่องด่านชายแดนบนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ สายตะวันออก-ตะวันตก ที่เรียกกันว่า แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor – EWEC) เป็นหนึ่งใน สามแนวระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน ้าโขง (Greater Mekong Sub-region – GMS) ที่ประกอบด้วยไทย= เมียนมา =ลาว= กัมพูชา เวียดนาม มณฑล ยูนนาน และกว่างสีของจีน โดยเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ EWEC เชื่อมตัดเป็นแนวขวางระหว่างทะเลจีนใต้ กับทะเลอันดามัน ผ่าน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย-เมียนมา- เวียดนาม -ลาว  เป็นการ “เปิดฟ้าเขตเศรษฐกิจแม่สอด” ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน มากขึ้น

แม่สอด=อธิบดีกรมธนารักษ์ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าและเตรียมความพร้อมในการเปิดประมูลที่ราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก(แม่สอด)

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย นายสมมาตร มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์ นายคณาวุฒิ สิติธีรพันธุ์ รองอธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าและเตรียมความพร้อมในการเปิดประมูลที่ราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก โดยได้เดินทางลงพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก(อ.แม่สอด=อ.แม่ระมาด=อ.พบพระ) (แปลงที่ 1) บนที่ราชพัสดุหมายเลขทะเบียน ตก. 590 ซึ่งเป็นแปลงเปิดประมูลให้เอกชนเสนอโครงการลงทุน และ พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก (แปลงที่ 2) บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ตก. 591 ซึ่งเป็นแปลงที่จัดให้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เช่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเปิดประมูลพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โดยได้ลงพื้นที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย - เมียนม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1 และ แห่งที่ 2 สำหรับรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก(แม่สอด)ให้เชื่อมโยงกับประเทศพม่าและเพิ่มศักยภาพทางการค้าและการลงทุนในพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษพร้อมเข้าตรวจเยี่ยมศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ตาก (Tak Treasury Corporation Center) เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ตาก

โดยที่นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรมธนารักษได้สนับสนุนและผลักดันให้เกิดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในภารกิจของกรมธนารักษ์ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางด้านการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม ซึ่งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ตั้งอยู่ในท้องที่ (ชายแดนไทย-เมียนมา) ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก แบ่งเป็น 2 แปลง ดังนี้

แปลงที่ 1 ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ตก.590 เนื้อที่ประมาณ 1,076-1-90.70 ไร่
คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 เห็นชอบให้เปิดประมูลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากใหม่ และมีมติมอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้านสิทธิประโยชน์ฯ เป็นหน่วยงานดำเนินการเกี่ยวกับการทบทวนสิทธิประโยชน์ และการขยายระยะเวลาสิทธิประโยชน์การยกเว้นค่าเช่าที่ดินราชพัสดุตามมาตรการเร่งรัดการลงทุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขการเปิดประมูล
ทั้งนี้เมื่อ กพศ. มีมติเห็นชอบสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขในการประมูล  กรมธนารักษ์จะได้ดำเนินการเปิดประมูลเพื่อสรรหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาที่ดินราชพัสดุ ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก โดยคาดว่าจะเปิดประมูล ได้ช่วงเดือน พฤษภาคม 2565  ที่จะถึงนี้


กำหนดผลประโยชน์ตอบแทนคือ
1. ค่าเช่าในอัตราไร่ละ 36,000 บาท/ปี
2. คิดเป็นค่าเช่าปีละ 38,753,163 บาท (ปรับปรุงค่าเช่า 15%  ทุก 5 ปี)
3. กำหนดค่าธรรมเนียมการประมูล เป็นเงิน 269,119,188 บาท
4. ระยะเวลา การเช่า 50 ปี
ปัจจุบันเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนกิจการเป้าหมายครบทั้ง 13 กลุ่มอุตสาหกรรม  
ปัจจุบันเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตากมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนกิจการเป้าหมายครบทั้ง 13 กลุ่มอุตสาหกรรม  
คุณสมบัติของผู้เสนอการลงทุน
1. เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย
2. ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
3. กรณีกิจการร่วมค้า (Joint Venture) เป็นการร่วมของธุรกิจที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกันไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
4. มีผลงานหรือประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างน้อย 1 โครงการ
สำหรับแปลงที่ 2 ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ตก.591 เนื้อที่ประมาณ 671-2-05 ไร่
จัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เช่า
1. อัตราค่าเช่าไร่ละ 25,200 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าทั้งแปลง เป็นเงิน 16.92 ล้านบาท
2. ปรับปรุงค่าเช่า 15% ทุก 5 ปี (ค่าเช่าตลอดอายุสัญญาเช่า 50 ปี = 1,717.91 ล้านบาท)
3. ค่าธรรมเนียมการเช่าไร่ละ 250,000 บาท/50 ปี
4. ค่าธรรมเนียมการเช่าทั้งแปลง เป็นเงิน 167.88 ล้านบาท
5. ค่าธรรมเนียมการเช่าผ่อนชำระ 5 ปี โดยเริ่มชำระปีที่ 6-10 ยกเว้น 5 ปีแรก พร้อมดอกเบี้ยตามอัตราตลาด
 
ทั้งนี้การพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

 
กรมธนารักษ์เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังมีหน้าที่บริหารจัดการที่ราชพัสดุให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสนับสนุนที่ดินราชพัสดุให้ส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้ประโยชน์เพื่อรองรับการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานและตามนโยบายของรัฐบาล

รายงานข่าวแจ้งว่า อ.แม่สอด จ.ตาก ถือว่าในอนาคตจะเป็นเมืองเศรษฐกิจ ในระดับชั้นนำ ของไทย ด้วยศักยภาพและความพร้อม ในทุกๆด้าน ทั้งเป็นประตู ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน –AEC … (ASEAN Economic Community ) บนเส้นทางแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor – EWEC) ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนนับแสนล้านบาทในแต่ละปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ถึงวันเปิดฟ้า “เปิดฟ้าเขตเศรษฐกิจแม่สอด” ในปี 2565  นี้แล้ว