อากาศร้อนแล้งอาหารขาดแคลนโขลงช้างป่าลงเขายึดพื้นที่การเกษตร

อากาศร้อนแล้งอาหารขาดแคลนโขลงช้างป่าลงเขายึดพื้นที่การเกษตร





ad1

ปราจีนบุรี--ร้องทุกข์ ชาวบ้าน!  หลังฉีดพ่นยาอ้อย-มัน ไปหาเก็บเห็ดเจอโขลงช้างกลับบ้านไม่ได้ขณะ ขนำ-กระท่อมเพิงพัก ถูกเหยียบราบพังกองกับพื้น  อีกหมู่บ้านใกล้กันพื้นที่เขามะก่องโขลงช้างพังบ้านแจงยิ่งแล้งยิ่งหนัก

วันนี้ 31 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า  ได้รับแจ้งจาก นายธนเกียรติ ไชยราช อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหมู่ 14 (ส.อบต.) อาสาเฝ้าระวังช้างป่า  มีกระท่อมหรือขนำที่พัก  ของนางสมัย เหล็กสี อายุ 47 ปี  ชาวบ้านหมู่ 4 บ้านวังมะกรูด  ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี  จ.ปราจีนบุรี   ที่สร้างไว้สำหรับพัก หรือ รับประทานอาหาร   ช่วงเวลาไปทำไร่มันสำปะหลัง ไร่อ้อย  ได้ถูกโขลงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  จ.ฉะเชิงเทรา  (ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา , จ.สระแก้ว ,จ.ชลบุรี , จ.จันทบุรี,จ.ระยอง)  รื้อ – เหยียบพังราบกองกับพื้นหมดทั้งหลัง  ไม่กล้าที่จะออกไปทำไร่มันสำปะหลัง และไร่อ้อยที่ปลูกไว้  เนื่องจากโขลงช้างป่าได้พากันข้ามฝั่งจาก จ.ฉะเชิงเทรามาหากินมากกว่า 13 ตัว +  มานานเกือบ 1 เดือนแล้วไม่ยอมกลับคืนถิ่นที่อยู่เดิม

นอกจากนี้ช่วงเย็นวานนี้ (30 มี.) ประมาณ 17.00 น.  ขณะที่นางสมัย  เหล็กสี พร้อมญาติ  หลังจากไปฉีดพ่นยาใส่ปุ๋ย ในไร่อ้อย  ,ไร่มันสำปะหลังแล้ว  ได้ออกเลยจากไร่ไปท้ายหมู่บ้านเพื่อหาเก็บเห็ดป่า   และ เจอโขลงช้างป่าอ่างฤาไน 1 ฝูง  จำนวนมากกว่า 13 ตัว +    กลับบ้านไม่ได้เกรงเกิดอันตราย     จึงโทรศัพท์แจ้งผู้นำและอาสาเฝ้าระวังช้าง  ขอให้มาช่วยไล่ช้างออกจากพื้นที่เพื่อจะกลับบ้านก่อนจะมืด  เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากช้างป่า

นายธนเกียรติ  อาสาเฝ้าระวังช้างป่ากล่าวต่อไปว่า   เมื่อตนเองได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ออกไปไร่และหาเก็บเห็ดได้พบกับช้างป่าอ่างฤาไน 1 ฝูงด้วยความตกใจกลัวเกรงว่าจะได้รับอันตราย  ที่โทรฯมาบอกให้ไปไล่ช้างกลับเข้าป่าด้วย   เกรงว่าจะได้รับอันตราย หลังได้รับแจ้ง    จึงขับรถไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เจอช้างอยู่ในไร่และพากลับบ้านอย่างปลอดภัย

พร้อมกันนี้  วันนี้ (31มี.ค.) ได้รับแจ้งที่เขามะก่อง หมู่บ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 14 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี บ้านพักของนายเอกพงษ์  เทพเทพา ผช.ผญบ.หมู่ 14 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ที่มาซื้อที่ดินและปลูกบ้านไว้ ถูกโขลงช้างป่าพงบ้านได้รับความเสียหาย  โดยพื้นที่เขามะก่องมีโขลงช้างป่ารวมกว่า 40 ตัว +  ขณะนี้ชุดผลักดันช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังพื้นที่อยู่  พบว่าโขลงช้างที่ข้ามฝั่งมายิ่งแล้งนี้ ไม่ยอมกลับคืนถิ่นที่อยู่เดิม อยากให้ทุกฝ่ายร่วมผลักดันด้วย ” นายธนเกียรติกล่าว

ด้านนางสมัย เหล็กสี และพี่สาวกล่าวว่า   เย็นวานนี้(30มี.ค.)ขณะที่ออกมาไร่มันสำปะหลัง ไร่อ้อย    ก่อนกลับบ้านอยากจะหาเก็บเห็ดในป่ายูคาลิปตัส  ข้างไร่มันสำปะหลังจึงไปหาเก็บเห็ด    ระหว่างนั้นได้พบกับฝูงช้างป่ามากกว่า 10ตัว  โผล่ออกมาจากราวป่าและข้างป่ามันสำปะหลัง  รู้สึกตกใจกลัวทำอะไรไม่ถูก    เกรงว่าจะได้รับอันตราย

จึงโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดระวังช้างป่ามาช่วยไล่ช้างออกจากพื้นที่    ช้างป่าฝูงนี้ออกมาหากินข้างไร่    ของเกษตรกรหลายวันแล้วสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านอย่างมาก   บางวันก็ออกมาตอนสายๆบ่าย และ  กลางคืนก็จะพากันส่งเสียงร้องคำรามข้างหมู่บ้าน    อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำการผลักดันช้างป่าฝูงนี้ออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน

มานิตย์   สนับบุญ/ ปราจีนบุรี รายงาน