นครบาล แจง ยังไม่บังคับใช้กฎหมาย “เด็กต่ำกว่า 6 ขวบนั่งคาร์ซีท”

นครบาล แจง ยังไม่บังคับใช้กฎหมาย “เด็กต่ำกว่า 6 ขวบนั่งคาร์ซีท”





ad1

นครบาล แจง ยังไม่บังคับใช้กฎหมาย “เด็กต่ำกว่า 6 ขวบนั่งคาร์ซีท” รอครบ 120 วันหลังประกาศลงราชกิจจาฯ

พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงพระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับล่าสุด ที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีผลบังคับใช้ในอีก 120 วัน หรือในวันที่ 5 กันยายนนี้ ว่า กฎหมายดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ ป้องกันไม่ให้เด็กได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย หากเกิดอุบัติเหตุทางถนน ด้วยการจัดที่นั่งที่เหมาะสมให้ โดยระบุใจความสำคัญในการป้องกันไว้ 3 รูปแบบ คือ 

ผู้ปกครองต้องจัดที่นั่งนิรภัย หรือ คาร์ซีท สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบหรือมีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร หรือ ต้องจัดหาที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบหรือมีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร หรือ หาวิธีป้องกันสำหรับเด็กที่โดยสารบนรถ

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า หากตีความข้อกฎหมายดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ไม่ได้บังคับตายตัวว่าจะต้องใช้เพียงที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือ คาร์ซีท เพียงอย่างเดียว แต่ยังระบุว่า “หรือจัดหาที่นั่งสำหรับเด็ก” เช่น การจัดให้เด็กนั่งและคาดเข็มขัดนิรภัยให้ หรืออาจใช้วิธีการป้องกันอื่นๆ เช่น การนำเด็กมานั่งตักและคาดเข็มขัดนิรภัยให้ ทั้งตัวเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งลักษณะและวิธีการป้องกันดังกล่าว ต้องรอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่างข้อกำหนดให้ชัดเจนว่า การติดตั้งหรือจัดหาที่นั่งแต่ละแบบนั้นจะมีรูปแบบอย่างไร แบบไหนที่สามารถนำมาใช้ได้หรือไม่ได้ 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะใช้ช่วงเวลาระหว่างรอกฎหมายบังคับใช้ 120 วัน ร่างข้อกำหนดดังกล่าวให้เสร็จสิ้น และหากยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้นเรียบร้อย ก็ยังมีเวลาอีก 90 วัน ที่จะสามารถร่างข้อกฎหมายให้เสร็จสิ้นได้ คาดว่าหากใช้เวลาเต็มที่ กฎหมายดังกล่าวก็จะบังคับใช้ หรือมีการจับปรับได้ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2565 

พลตำรวจตรี จิรสันต์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงแรกนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะเน้นประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองทราบ และหาวิธีป้องกันตามที่ระบุไว้ในข้อกฎหมาย จะไม่ได้เป็นรูปแบบของการตั้งด่านตรวจหรือจับปรับโดยเฉพาะ แต่หากเป็นเหตุซึ่งหน้า เช่น มีการตั้งด่านตรวจในกรณีอื่นๆ แล้วพบว่า ผู้ปกครองไม่ได้จัดที่นั่งที่ปลอดภัยให้ ก็จะทำการตักเตือนประชาสัมพันธ์ ให้แก้ไขให้ถูกต้อง

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า หากเป็นรถโดยสาร รถแท็กซี่ รถประจำทาง หรือรถโรงเรียน กฎหมายดังกล่าวจะถูกบังคับใช้ไปด้วยหรือไม่นั้น ตามข้อกำหนดแล้ว เป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก ที่จะต้องออกประกาศว่ารถชนิดใดจะถูกบังคับใช้ตามกฎหมายนี้ และรถประเภทใดที่ได้รับข้อยกเว้น โดยกรอบเวลาจะอยู่ในช่วงเดียวกันกับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา และบวกเพิ่มอีก 90 วัน หากไม่เสร็จสิ้นเรียบร้อยหลังกฎหมายบังคับใช้