แม่ทัพภาค 4 ยืนยันคนขว้างบึ้ม-ระดมยิงสถานีตำรวจน้ำตากใบปมสูญเสียผลประโยชน์

นราธิวาส-คืบหน้าเหตุลอบขว้างระเบิดและระดมยิงใส่สถานีตำรวจน้ำตากใบ แม่ทัพภาค 4 ยืนยัน มีความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างผู้สูญเสียผลประโยชน์กับผู้ก่อเหตุรุนแรง จากหลักฐานที่พิสูจน์ได้

วันนี้(27พค.65)พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบผลการพิสูจน์ทราบทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งอาวุธ กระสุนต่างๆ รวมทั้งระเบิดไปป์บอม์ มีความเกี่ยวเนื่องกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ในขบวนการดำเนินการ การปฏิบัติการในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมีผู้สูญเสียผลประโยชน์ จากขบวนการค้ายาเสพติด ขบวนการค้าสิ่งของผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ซึ่งในคืนวันที่ 24 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการกวาดล้าง 29 จุดในพื้นที่นราธิวาส  รวมทั้งเป้าหมายในพื้นที่ปัตตานี เกิดจากการขยายผลและติดตาม นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยเฉพาะในความเชื่อมโยงกรณีที่มีการปฏิบัติต่อตำรวจน้ำตากใบ ขอนำเรียนสื่อมวลชนว่า ความเกี่ยวเนื่อง เรื่องของภัยแทรกซ้อน เรื่องของสิ่งเสพติด เรื่องของขบวนการผลประโยชน์การค้าชายแดนที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องกวาดล้างต่อไป  อยากจะนำเรียนพี่น้องประชาชนว่า สันติสุขที่ได้พูดคุยกัน ในห้วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา กว่า 50 วัน  ความสันติสุข เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าพี่น้องประชาชนมีความพึงพอใจ มีความต้องการเป็นอย่างสูง อยากจะเห็นสันติสุขเกิดขึ้น อยากเห็นความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลง ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันที่จะสานต่อแนวนโยบายการพูดคุยสันติสุข การลดความรุนแรง

ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตากใบ ในคืนวันที่ 25 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มที่ปฏิบัติการต่อกองกำลังของเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ ยืนยัน มีความเชื่อมโยงแน่นอน  ระหว่างผู้สูญเสียผลประโยชน์กับผู้ก่อเหตุรุนแรง จากหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปล่อยปละละเลย ในส่วนเรื่องของสันติสุข ยังคงเดินหน้าเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้ใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุขกันต่อไป  ส่วนเรื่องของการกระทำผิดกฎหมายต้องดำเนินการอย่าวงเด็ดขาด โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติด เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ไม่พึ่งปรารถนา กลุ่มขบวนการพยายามอาศัยช่องว่างในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามา จะเห็นได้ว่ามีเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากมาย  โดยเฉพาะเครือข่ายของผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่ มีความโยงใยจากพื้นที่ภาคเหนือ ลงสู่ภาคใต้ที่ชายแดน แล้วส่งออกไป จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีการจับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มีการยึดทรัพย์ เจ้าหน้าที่มีการบูรณาการอย่างมุ่งมั่น กวาดล้างอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หลังการเปิดเมือง เปิดด่านชายแดน สร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว การค้าขาย การลงทุน เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ผลที่เกิดขึ้นกระทบแน่นอนหนีไม่พ้นพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นผู้ที่ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่มีการบังคับกฎหมายอย่างเต็มที่ เราต้องช่วยกัน