จนท.สนธิกำลัง 3 ฝ่ายปิดล้อมเทือกเขาตะเวจนระปะทะเดือดแกนนำเตรียมป่วนใต้ก่อนหลบหนีหวุดหวิด

จนท.สนธิกำลัง 3 ฝ่ายปิดล้อมเทือกเขาตะเวจนระปะทะเดือดแกนนำเตรียมป่วนใต้ก่อนหลบหนีหวุดหวิด





ad1

นราธิวาส-คืบหน้า เหตุเจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายพื้นที่บ้านตือระ ต.สากอ อ.สุไหงปาดี  เบื้องต้นตรวจพบฐานปฏิบัติการชั่วคราว พร้อมอาวุธ คาดเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ 

วันนี้(29สค.65)จากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบ และบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เข้ามาหลบซ่อนในพื้นที่ บ้านตือระ หมู่ 1 ตำบลสากอ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส และเกิดการยิงต่อสู้กัน โดยเบื้องต้นคนร้ายหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบฐานปฏิบัติการชั่วคราว พร้อมอาวุธและอุปกรณ์ยังชีพจำนวนหนึ่ง คาดว่าเตรียมก่อเหตุในพื้นที่โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการขยายผลจากการแจ้งเบาะแสของประชาชนในพื้นที่ซึ่งพบบุคคลต้องสงสัยคาดว่าน่าจะเป็นของกลุ่มนายตอเย็บ แมทาลง ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ

พร้อมพวกไม่ต่ำกว่า 8 คน เข้ามาเคลื่อนไหว บริเวณเทือกเขาตะเว พื้นที่ บ้านกำปงบือแน หมู่ที่ 6 ตำบลริโก๋ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ในช่วงระหว่างวันที่ 27- 28 สิงหาคม 2565 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบ จนกระทั่งวันที่ 28 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 12.54  น. กลุ่มคนร้ายตรวจพบเจ้าหน้าที่จึงได้เปิดฉากยิงใส่ก่อนจะหลบหนีเข้าไปในป่า เบื้องต้นไม่มีฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บ 

ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณจุดที่เกิดการยิงปะทะ พบที่พักชั่วคราว และอาวุธปืนเล็กยาว แบบ เอ็ม16  ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นอาวุธที่ถูกปล้นไปจากกองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อปี 2547 นอกจากนี้ยังพบ ลูกระเบิดขว้างชนิดไปป์บอมบ์ จำนวน 3 ลูก  เปลสนาม, ผ้าใบกันฝน และสัมภาระจำนวนหนึ่ง รวมทั้งสิ่งของและอุปกรณ์ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกหลายรายการ

 ทั้งนี้ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กำชับให้หน่วยเก็บวัตถุพยาน และเร่งบังคับใช้กฏหมายกับกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีพร้อมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันตรวจสอบเพื่อป้องกันคนร้ายเข้ามาหลบซ่อนในหมู่บ้าน/ชุมชนรวมทั้งได้สั่งการให้หน่วยเข้าไปสร้างความเข้าใจกับครอบครัวและชุมชนให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นในการเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกคนที่เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการของกฏหมาย หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข่าวได้ที่หมายเลขสายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 และโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061 - 1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง