“น้องเนย”หนุ่มบิ๊กไบค์ เหยื่อจ่าคลั่งกราดยิงที่โคราช สลดใจเหตุเกิดซ้ำศูนย์เด็กฯหนองบัวลำภู

“น้องเนย”หนุ่มบิ๊กไบค์ เหยื่อจ่าคลั่งกราดยิงที่โคราช สลดใจเหตุเกิดซ้ำศูนย์เด็กฯหนองบัวลำภู





ad1

นครราชสีมา – “น้องเนย” หนุ่มบิ๊กไบค์ เหยื่อจ่าคลั่งกราดยิงที่โคราช สลดใจเหตุกราดยิงที่ศูนย์เด็กเล็ก จุดภาพจำครั้งเก่าให้ผุดขึ้นอีก  ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นซ้ำ  วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลเข้มเรื่องอาวุธปืน

จากเหตุการณ์ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อายุ 34 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.นาวัง อ.นาวัง  จ.หนองบัวลำภู ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการในคดียาเสพติด ได้บุกเข้าไปกราดยิงเด็กเล็กและครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู และประชาชนในพื้นที่ ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (6 ตุลาคม 2565) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 ศพ บาดเจ็บอีก 12 ราย  และหลังจากก่อเหตุได้ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน กธ 6499 กรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ฯ เร่งสกัดจับแต่คนร้ายยังคงกราดยิงประชาชนตามเส้นทาง  จนในที่สุด คนร้ายได้ขับรถกลับบ้านพักซึ่งอยู่ในพื้นที่ และใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง พร้อมภรรยาและลูก เสียชีวิตคาบ้านพัก  เป็นเหตุสะเทือนขวัญ สร้างความตระหนกตกใจให้กับประชาชนทั่วประเทศที่ได้ทราบข่าวอันน่าสลดใจในครั้งนี้

ล่าสุด ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 899/48 หมู่บ้านศิริสุข 1 วิลเลจ ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของนายจิรัฐิติกาล นอบไทย หรือ น้องเนย อายุ 28 ปี หนุ่มบิ๊กไบค์หนึ่งในเหยื่อจ่าคลั่งกราดยิงหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าฯ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสกระสุนปืนทำลายอวัยวะภายในบริเวณช่องท้องและแขนเส้นเอ็นขาด แพทย์พยาบาลพยายามช่วยรักษาจนอาการดีขึ้น แต่ต้องเสียไตไป 1 ข้าง เอ็นแขนขาดทำให้ไม่มีแรง ลำไส้ยังอยู่นอกร่างกายต้องขับถ่ายผ่านถุงพลาสติก

หลังจาก “น้องเนย” ได้ทราบข่าวการกราดยิงเด็กเล็กและครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ วันนี้ ทำให้รู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก โดยเปิดเผยว่า เหตุการณ์กราดยิงที่เกิดขึ้นกับตนเองเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ได้สร้างบาดแผลในใจ และภาพเหตุการณ์ยังจำติดตามาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเมื่อได้ยินข่าวกราดยิงอีกในวันนี้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดซ้ำอีก โดยเฉพาะเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่มีอาวุธปืนแล้วไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ครั้งนี้มาก่อเหตุกับเด็กเล็กและประชาชนที่ไม่รู้อะไรเลย สร้างความสลดหดหู่ให้กับตนเองและประชาชนทั่วไปอย่างมาก  ทำให้ภาพเหตุการณ์ครั้งเก่าที่โคราชผุดขึ้นอีกครั้ง ต้องขอแสดงความเสียใจกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องมาสูญเสียบุตรหลาน รวมถึงญาติของผู้เสียชีวิตทุกรายในครั้งนี้ด้วย  และอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยควบคุมดูแลเรื่องอาวุธปืนที่มีจำหน่ายอยู่เกลื่อนเมืองทั้งในโซเชีย และหาซื้อกันเอง  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

ส่วนภาพร่างกายของตน เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ได้เข้ารับการผ่าตัดเอาลำไส้กลับเข้าไปในช่องท้อง ตอนนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ สภาพร่างกายมีความพร้อมกว่า 90% ส่วนเรื่องการเยียวยา ตนได้รับการช่วยเหลือ เป็นเงินเดือนละ 7,500 บาท ตั้งแต่ 2 เดือนหลังเกิดเหตุ และเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาได้รับเยียวยา มาประมาณ2 ล้านกว่าบาท .

ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา