ตำรวจภูธรภาค 9 ตั้งกรรมการสอบปมทนายอัจฉริยะ ร้องกองปราบฯ ให้ดำเนินคดีกับผู้การนราธิวาส พัวพันกับผู้ต้องหาคดียาเสพติด
ตำรวจภูธรภาค 9 ตั้งกรรมการสอบผู้การนราธิวาส เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีทนายอัจฉริยะ ร้องกองปราบฯ ให้ดำเนินคดีกับผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาสถูกกล่าวหาพัวพันกับผู้ต้องหาคดียาเสพติด
จากกรณีทนายอัจฉริยะ ร้องกองปราบฯ ให้ดำเนินคดีกับผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาสถูกกล่าวหาผัวพันกับผู้ต้องหาคดียาเสพติด ล่าสุดเวลา 18.00 น.วันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า จ.ยะลา ตำรวจภูธรภาค 9 พ.ต.อ.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รองโฆษก ศปก.ตร.สน.ได้แถลงข่าวชี้แจง กรณีที่สื่อเผยแพร่ข่าว ทนายอัจฉริยะ ร้อง ตร.ปปป. เอาผิด ผู้การฯนราธิวาส ที่ออกบัตรรับรองเป็นใบผ่านทางให้ผู้ต้องหาคดียาเสพติด มีอาวุธสงครามในพื้นที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ โดยอาจทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เกิดข้อกังขา หรือ ข้อสงสัย ในการทำงานอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้กรณีดังกล่าว
พ.ต.อ.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย เผยว่า พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มิได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากข้าราชการตำรวจดังกล่าวเป็นระดับผู้บริหารหัวหน้าหน่วย โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 เป็นประธานกรรมการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ตามนโยบายของ ผบ.ตร. /ผอ.รมน.ภาค 4 และ ผบช.ภ.9 ยังมุ่งเน้นการกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดเห็นได้จากมีผลการจับกุม และขยายผลตรวจสอบ ยึดทรัพย์อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะป้องกันไม่ให้มีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องในขบวนการดังกล่าว รวมไปถึงมุ่งเน้นการปราบปรามอาชญากรรมทั่วไป เช่น อาวุธปืน ขบวนการค้ามนุษย์ และลักลอบสินค้าผิดกฎหมายทุกประเภท
ทั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 9 ขอให้พี่น้องประชาชนได้มั่นใจในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอยืนยันว่าพี่น้องตำรวจทุกคน พร้อมรับใช้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และมีเป้าหมายเพื่อความสงบสุขของประชาชนอย่างแท้จริง โดยก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหยื่ออาชญากรรมเข้าร้องทุกข์กับตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ให้ดำเนินคดี กับ พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยกฎหมาย สนับสนุน หรือช่วยเหลือผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดฯ มีอาวุธสงครามไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิด เรียกรับผลประโยชน์ ส่อไปในทางทุจริต นายอัจฉริยะ อ้างว่ากรณีดังกล่าวมีตำรวจในพื้นที่
และเหยื่ออาชญากรรมในจังหวัดนราธิวาสได้ร้องเรียนมาที่ตน ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ที่ส่อไปในทางทุจริต มีการออกบัตรและลงลายมือชื่อให้กับนายชยานนท์ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดและเคยก่อคดีอาชญากรรมถึง 6 คดี แล้วผู้ต้องหาที่ได้รับบัตรดังกล่าวนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เป็นเหตุให้ตำรวจในพื้นที่เกรงกลัวอิทธิพลบุคคลที่มีบัตรดังกล่าวมาใช้ กระทั่ง ป.ป.ส ภาค 9 บุกจับกุมนายชยานนท์ พร้อมพวก รวม 6 คน พร้อมยึดอาวุธสงครามได้หลายรายการ เมื่อ 8 มิ.ย. 65 ซึ่งขณะนี้ตัวผู้ต้องหา อยู่ระหว่างการประกันตัวออกมาสู้คดี จึงเข้ามาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าว และก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
