กลุ่ม Beach for life พร้อม 91 องค์กรภาคประชาชนยื่นหนังสือสำนักนายกฯ ทวงคืนชายหาดจากโครงการกำแพงกันคลื่น

กลุ่ม Beach for life พร้อม 91 องค์กรภาคประชาชนยื่นหนังสือสำนักนายกฯ ทวงคืนชายหาดจากโครงการกำแพงกันคลื่น





ad1

วันนี้ 25 พฤศจิกายน 2565  ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111  สำนักนายกรัฐมนตรี กลุ่ม Beach for life เเละขบวนประชาชนทวงคืนชายหาด 91 องค์กร จำนวน 20 คน นำโดย นาย อภิศักดิ์ ทัศนี แกนนำกลุ่ม ได้เข้ามายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อ ขอให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบายและกฎหมาย เพื่อการปกป้องชายหาด เนื่องจาก โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นของกรมโยธาธิการฯ ที่ผ่านมานั้น ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชายหาด ทำให้ชายหาดนั้นหายไปอย่างถาวร ดังที่เกิดขึ้นกับชายหาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ,หาดปราณบุรี จังหวัดประจวบคืรีขันธ์ ,หาดแหลมเสด็จ จังหวัดจันทบุรี, หาดทรายแก้ว จังหวัดสงขลา, หาดหน้าสตน จังหวัดนครศรีธรรมราช 

ทั้งนี้ในหลายพื้นที่ที่มีการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นในพื้นที่ชายหาดท่องเที่ยว เช่น หาดชะอำ หาดปราณบุรี ได้สร้างความเสียหายให้การท่องเที่ยวริมชายฝั่งทะเล ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลง และเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการร้านค้าในแถบหาดท่องเที่ยวนั้นรายได้ลดลงตามไปด้วย

จากปัญหาที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า การเพิกถอนกำแพงกันคลื่นออกจากโครงการที่ต้องทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EA) และ การให้อำนาจกรมโยธาธิการฯ ซึ่งไม่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญในการทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาชายฝั่งทะเลที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรหาดทราย ซึ่งเป็นฐานทรัพยากรสำคัญของชุมชน ในฐานะเป็นพื้นที่แห่งชีวิต เป็นพื้นที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และพื้นที่แห่งความสุขของประชาชนที่เข้ามาใช้ประโยชน์ และ เมื่อหาดทรายถูกทำลายด้วยกำแพงกันคลื่นจากกรมโยธาธิการฯ ทำให้กระทบถึงวิถีวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและมูลค่าที่เกิดขึ้นจากการมีหาดทรายได้ถูกทำลายไปด้วย กลุ่ม Beach for life และ ภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนชายหาด 91 องค์กร จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ดำเนินการ 3 ข้อเรียกร้องสำคัญนี้ คือ

1.ขอให้คณะรัฐมนตรีมีคำสั่งแก้ไขมติคณะที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 30 กรกฎาคม 2534 และ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2539 ที่ให้อำนาจกรมโยธาธิการและผังเมืองในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ด้วยเหตุผลที่ว่า กรมโยธาธิการฯไม่มีความรู้ ความเข้าใจในการป้องกันและจัดการปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า กรมโยธาธิการฯ สร้างความเสียชายหาดต่อทรัพยากรชายหาด ใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการสร้างกำแพงกันคลื่น เพื่อทำลายชายหาด 

2.ขอให้คณะรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเอาโครงการกำแพงกันคลื่นกลับมาเป็นโครงการที่ต้องทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังเดิม เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิให้แก่ประชาชนและชุมชน รวมถึงเพื่อให้เกิดกระบวนการและกลไกในการตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชนก่อนดำเนินการโครงการกำแพงกันคลื่น

3. ขอให้คณะรัฐมนตรี มีคำสั่งให้มีการฟื้นฟูสภาพชายหาดที่ได้รับความเสียหายจากการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น โดยเฉพาะหาดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูชายหาดให้กลับมาดังเดิม

ทั้งนี้ นาย สาธิต สุทธิเสริม รักษาการผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน เป็นผู้แทนฯ ได้รับเรื่องไว้ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยทางกลุ่มฯ กล่าวว่า ให้เวลารัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 10 วัน เพื่อดำเนินการและชี้แจงความคืบหน้าใน 3 ข้อเรียกร้องให้กลุ่มฯ ได้รับทราบ หากผลความคืบหน้าไม่เป็นที่พอใจ กลุ่มฯ จะระดมมวลชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกำแพงกันคลื่น มาทำกิจกรรมติดตามทวงถามความคืบหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป