ตำรวจนำ 3 ผู้ต้องหาฆ่าหนุ่มบัวใหญ่ฝังดินกลางทุ่งนา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

0 8

กรณีที่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งพบศพชายถูกฆ่าฝังดินอยู่บริเวณกลางทุ่งนาบ้านหนองยาว ต.หนองบัวสะอาด อ.บัวใหญ่ โดยชาวบ้านพบเท้าของผู้ตายสวมรองเท้าสีแดงโผล่ขึ้นมาจากหลุมที่ฝัง ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายวิราช สงนอก อายุ 39 ปี ชาวบ้านบ้านหนองปรือพัฒนา หมู่ 16 ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา ซึ่งจากการสอบถามญาติผู้ตายทราบว่า ผู้ตายได้หายออกจากบ้านไปประมาณ 3 วันแล้ว โดยก่อนหายตัวผู้ตายได้บอกที่บ้านว่าจะออกไปยิงหนูนา จากนั้นก็หายตัวไป และมาพบเป็นศพถูกฝังดินอยู่กลางทุ่งนา เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายอาจมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนในวงเหล้า แล้วถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนนำศพมาฝังดินเพื่ออำพรางคดี กระทั่งต่อมาวันนี้ (13 ธ.ค.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ ได้ติดตามจับตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 คน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (13 ธันวาคม 2565) เวลา 16.30 น. พ.ต.อ.ธัชพล ส่องแสง ผกก.สภ.บัวใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ซึ่งประกอบไปด้วย นายสุเทพ จันทร์น้อย หรือ เทพ อายุ 24 ปี, นายธีรภัทร เศษภักดี หรือ นนท์ อายุ 22 ปี และนายเอ (นามสมติ) เยาวชนอายุ 15 ปี ไปยังกระท่อมที่เกิดเหตุ กลางทุ่งนาบ้านหนองยาว ต.หนองบัวสะอาด อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดย พ.ต.อ.ธัชพล ส่องแสง ผกก.สภ.บัวใหญ่ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเย็นวันที่ 9 ธ.ค. ผู้ตายกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้มานั่งดื่มสุรากันที่กระท่อมดังกล่าว แล้วนายสุเทพก็ได้ให้เงินไปกับนายวิราชฯ จำนวน 1,800 บาท เพื่อให้ไปซื้อยาบ้ามาเสพกัน เนื่องจากนายวิราชฯ อ้างว่าสามารถหาซื้อยาบ้ามาได้ แต่หลังจากนั้นนายวิราชฯ ก็หายไปนานถึงเที่ยงคืนกว่าจะกลับมา

พร้อมยาบ้าเพียง 10 เม็ด ส่วนเงินที่ให้ไปก็ใช้หมดแล้ว ทำให้นายสุเทพฯ เกิดความไม่พอใจ นำปืนปากกามายิงนายวิราชฯ ไป 3 นัด ถูกบริเวณศีรษะ 1 นัด และหน้าอก 2 นัด เมื่อนายวิราชฯ ล้มลง ก็ได้ใช้มีดปลายแหลม จ้วงแทงตามลำตัวไป 10 แผล รวมทั้งใช้หน้าไม้ตีซ้ำจนนายวิราชฯ แน่นิ่งเสียชีวิตคาที่ หลังจากนั้นนายสุเทพฯ ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปนำจอบที่บ้านมา เพื่อให้ผู้ต้องหาอีก 2 คน ช่วยกันขุดหลุมฝังศพ โดยลากศพไปกลางทุ่งนาห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร และช่วยกันขุดหลุมฝังศพนายวิราชฯ เมื่อฝังเสร็จแล้วก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ไปทิ้งไว้ข้างทาง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร นำมีดไปทิ้งที่ป่าอ้อยห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร และนำปืนปากกาไปทิ้งลงสระน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ส่วนจอบก็ได้นำไปเก็บไว้ที่บ้านของนายสุเทพฯ

กระทั่ง วันที่ 12 ธ.ค.65 มีชาวบ้านมาพบศพถูกฝังดิน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ โดยภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ ได้รับแจ้งว่ามีศพถูกฆ่าฝังดิน ก็ได้จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ จนกระทั่งได้เบาะแสว่าที่กระท่อมนี้มักจะพบนายสุเทพฯ พาเพื่อนๆ มานั่งดื่มสุรากันเป็นประจำ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ไปนำตัวนายสุเทพฯ มาสอบปากคำจนยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง มูลเหตุจากเรื่องของการเบี้ยวเงินค่าไปซื้อยาเสพติด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาอีกราย เป็นเยาวชนชาย อายุ 15 ปี และทราบว่าผู้ต้องหาอีก 1 ราย

คือนายธีรภัทร เศษภักดี หรือ นนท์ อายุ 22 ปี ได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านญาติ ที่ จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการกดดันเพื่อให้มอบตัว จนกระทั่งผู้ต้องหา ให้ญาติติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสืบสวน สภ.บัวใหญ่ในวันนี้ โดยขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรและฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายต่อไป.