ระทึก!ไฟไหม้วัดเมืองน่าน พระเณรวิ่งหนีตายอลม่าน คาดไฟฟ้าลัดวงจร


พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไฟไหม้ ที่ศาลาเอนกประสงค์ 2 ชั้น ที่วัดดอนมูล ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน หลังเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ 7 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังฉีดน้ำสกัดเพลิงไหม้ ที่กำลังโหมไหม้ศาลาเอนกประสงค์ 2 ชั้น ที่วัดดอนมูล ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
โดยด้านล่างดัดแปลงเป็นห้องพักสามเณร และห้องเก็บของรวมทั้งห้องสมุด และชั้นบนเป็นห้องประชุมโดยเพลิงได้โหมกระหน่ำ เผาชั้นล่างจนเสียหายทั้งหมด และกำลังรุกลามไปชั้น 2 เจ้าหน้าที่ได้พาพระภิกษุสามเณ หนีตายจากไฟไหม้มารวมตัวกันอยู่ที่ศาลาการเปรียญ พร้อมกับระดมรถดับเพลิงเพื่อช่วยกันสกัดเพลิงไม่ให้รุกลามไปชั้น 2 ใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่งจึงสมารถควบคุมเพลิงไว้ได้
สามเณรที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าระหว่างจำวัดอยู่ในห้อง มีความรู้สึกว่าร้อนจึงตกใจตื่น ตื่นมาเจอไฟกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณห้องริมสุด จึงตะโกนบอกทุกคนว่าไฟไหม้ จึงช่วยกันนำถังดับเพลิงรีบมาดับไฟ แต่ดับไม่ได้เนื่องจากบริเวณเกิดเหตุเต็มไปด้วยไตรจีวร รวมทั้งห้องสมุดซึ่งมีหนังสืออยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งห้องใกล้ๆ ยังเก็บผ้าห่มซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงตะโกนให้ทุกคนหนีออกมาก่อน โดยบางรูปไม่ทันเก็บข้าวของเก็บทันเพียงหมอนติดหัวหรือผ้าห่มที่กำลังห่ม
ด้านพระครูสิรินันทวิทย์ เจ้าอาวาสวัดดอนมูล กล่าวว่า สำหรับตอนเกิดเหตุเวลาประมาณตี 3 เศษ ได้ยินเสียงสามเณรตะโกนว่าไฟไหม้จึงรีบออกมาดู พบว่าไฟได้ลุกลามเป็นอย่างมาก จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่รวมทั้งให้ภิกษุสามเณร รวมทั้งลูกศิษย์วัดมารวมกับบริเวณศาลา และนับจำนวนพบว่ามีสามเณรจำนวน 38 รูป พระภิกษุ 8 รูป ครบตามจำนวนและให้สำรวจว่าตนเองบาดเจ็บหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีคนสูญหายหรือได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้นั้นคงต้องรอให้พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบให้แน่ชัด
ด้านพลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่าเบื้องต้น คาดว่ามูลค่าความเสียหายประมาณ 7.5 ล้านบาท ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสอบถามเบื้องต้นได้ข้อมูลว่าต้นเพลิงเกิดบริเวณห้องริมสุดไฟเริ่มรุกไหม้จากบริเวณปลั๊กไฟที่เสียบพัดลมทิ้งไว้ ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดจะให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้ามาสำรวจตรวจสอบให้แน่ชัด ต่อไป