หนุ่มอุดรธานีเสพยาบ้าก่อนขับรถไปส่งเพื่อนที่ขากลับคลั่งเผารถทิ้ง-หนีปืนแทงก์น้ำสูง3ม.

หนุ่มอุดรธานีเสพยาบ้าก่อนขับรถไปส่งเพื่อนที่ขากลับคลั่งเผารถทิ้ง-หนีปืนแทงก์น้ำสูง3ม.





ad1

ขอนแก่น-หนุ่มอุดรธานีเสพยาบ้าก่อนขับรถมาส่งเพื่อนที่ขอนแก่น ส่งเสร็จขับรถมาจนถึง อ.น้ำพอง เกิดอาการดีด รื้อเบาะรถพร้อมข้าวของในรถและป้ายทะเบียน มาเผาอยู่ข้างรถ เผาเสร็จข้ามไปวัดฝั่งตรงข้าม จับไม้กวาดทำความสะอาดลานวัด สนทนาธรรมกับพระ ก่อนตกใจคนเยอะหลอนปีนขึ้นแทงก์น้ำประปาในวัดสูง 3 เมตร สุดท้ายยอมลงแต่โดยดี เพราะเจ้าหน้าที่เอาเหล้าขาวมาล่อ

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 5 ก.พ.2566 นายชินกร แก่นคง นายอำเภอน้ำพอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัครกู้ภัยลงพื้นที่ตรวจสอบที่ วัดสมบูรณ์สันติธรรม บ.ห้วยหินลาด ม. 4 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังได้รับแจ้งเหตุมีคนคุ้มคลั่งปีนขึ้นแทงก์น้ำภายในวัด ทราบชื่อต่อมาคือ นาย วิชัย รินทรักษ์ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 บ้านเวียงคำ ม.4 ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการตรวจสอบพบชายดังกล่าวอยู่ในท่าทีหลอนหวาดระแวง และกลัวคน จากการสอบถามทราบว่าชายดังกล่าวเผาทรัพย์สินอยู่ข้างรถตัวเองฝั่งตรงข้ามวัด พอคนเข้าไปถามเกิดความกลัววิ่งหนีขึ้นไปบนแทงก์น้ำ

โดยนายอำเภอน้ำพอง พร้อมด้วยผกก.สภ.น้ำพอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันเกลี่ยกล่อมให้ลงมาแต่ไม่เป็นผล ก่อนจะตรวจสอบทราบว่าชายดังกล่าวเป็นชาว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี จึงได้ประสานญาติมารับตัว ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะทำการประเมินสถานการณ์วางแผน เนื่องจากคาดว่าชายดังกล่าวไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติดทำให้เกิดความหวาดระแวง กลัวคน แล้วหนีไป โดยระยะเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชม. เจ้าหน้าที่จึงให้ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่บางส่วนออกไปจากบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งพอทุกคนออกไป ชายดังกล่าวก็ค่อยๆโผล่หน้าออกมาเดินไปเดินมาบนแทงก์น้ำ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำเหล้าขาวเข้าไปชวนกินต้มไก่ข้างล่างเป็นกับแกล้มเหล้า ทำให้ขายดังกล่าวยอมลงมาแต่โดยดีโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะพาไปนั่งรับประทานต้มไก่ภายในป้อมยามเทศบาลตำบลม่วงหวานและนำตัวส่ง รพ.น้ำพอง

พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง  กล่าวว่า สาเหตุมาจากยาเสพติดหมดฤทธิ์ แล้วเกิดอาการหลอนหวาดระแวงกลัวคนจึงหนีขึ้นไปบนแท็งก์น้ำประปาในวัด  ก่อนที่จะประเมินสถานการณ์ร่วมกับนายอำเภอน้ำพองซึ่งประเมินว่าชายดังกล่าวเพียงแค่หวาดกลัวคนเท่านั้นและหลอนคิดไปเองจึงพยายามหลบหนี จึงได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่มาดูพากันออกนอกพื้นที่ โดยเหลือเพียงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อไม่ให้ชายกล่าวดังกล่าวเกิดอาการกลัว

" เมื่อชาวบ้านออกไปหมดชายดังกล่าวก็ออกมาตามที่ประเมินสถานการณ์ไว้จริงๆเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปพูดคุยด้วยเพื่อจะเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นลง พร้อมทั้งชักชวนมาทานข้าวด้วยกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ไปซื้อสุราขาว 40 ดีกรีมาหนึ่งขวด  ซึ่งผลปรากฎดีเกินคาด พ่อชายดังกล่าวเห็นขวดเหล้าก็รีบลงมาทันที ก่อนจะพามากินต้มไก่อยู่ที่ป้อมยามเทศบาลตำบลม่วงหวานพร้อมทั้งประสานญาติมารับตัวกลับ ซึ่งตอนที่ญาติมารับตัวกลับไปนั้นชายดังกล่าวมีอาการคุ้มคลั่งขึ้นมาอีกครั้งนึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ญาติหลีกเลี่ยงที่จะพบกับชายดังกล่าวก่อนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเกลี้ยกล่อมและพาชายดังกล่าวกินต้มไก่ต่อให้อิ่มท้องเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลน้ำพองเพื่อรับการรักษาและบำบัดตามขั้นตอนต่อไป"

ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวต่อว่า จากการสอบถามญาติชายดังกล่าวทราบว่า ชายดังกล่าวขับรถจาก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานีมาที่ขอนแก่น ก่อนหน้านั้นได้เสพยาคุ้มคลั่งอาละวาดบุกรุกยามวิกาลจนถูกเจ้าของบ้านแจ้งความจับ พอออกมาก็ก่อเหตุอีกก็ถูกจับส่งฟ้องศาลอุดรธานี ก่อนที่ศาลจะสั่งปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อวานที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนมาด้วยหนึ่งคนจากเรือนจำออกมาพร้อมกันด้วย จึงอาสาขับรถมาส่งเพื่อนที่บ้านวังเกิ้ง ม.4 ต.วังชัย อ.น้ำพอง ด้วยการยืมรถพี่ชายมาพอส่งเพื่อนเสร็จก็ขับรถต่อมาถึง ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง ห่างกันประมาณ 20 กม.จากบ้านเพื่อน โดยไม่รู้ว่าจะไปไหน

"  พอขับรถมาจนถึงที่เกิดเหตุ ก็มีการรื้อเบาะรถพี่ชายที่ขับมา รื้อข้าวของ และแผ่นป้ายทะเบียนมาก่อไฟเผาอยู่ข้างรถ ก่อนจะเข้าไปในวัดที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เข้าไปกวาดลานวัด ไปทำนั่นทำนี่ ไปคุยสนทนาธรรมกับพระที่วัด ทั้งไปคุยกับชาวบ้านที่มาทำบุญ พอตกบ่ายมาทางเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้เข้าไปสอบถามชายดังกล่าวหลายคน ทำให้ชายดังกล่าวเกิดอาการหวาดระแวง รีบหนีขึ้นไปบนแท็งก์น้ำในวัด เพื่อจะหลบซ่อน ตำรวจจึงบอกว่ากินข้าวไหม ลงมากินข้าวมา มากินข้าวด้วยกัน มีเหล้าด้วย ซึ่งชายดังกล่าวพอได้ยินก็รีบลงมาทันที โดยไม่มีท่าทีปฏิเสธแต่อย่างใด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพามานั่งรับประทานต้มไก่อยู่ภายในป้อมยาม ก่อนจะส่งตัวไปที่  รพ.น้ำพอง เพื่อทำการรักษาและ บำบัดตามขั้นตอน โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดเหตุอันตราย และทรัพย์สินของทางราชการก็ไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงข้าวของในรถของชายดังกล่าวที่ รื้อออกมาเผาอยู่ที่ข้างรถ ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์การฆ่าตัวตายแต่อย่างใด”