ปมหักหลังยาเสพติด! ฆ่าโหด 4 ศพ ยิงทิ้ง 3 ยัดเก๋งทิ้งบึง อีก 1 โยนแม่น้ำนราธิวาส

ปมหักหลังยาเสพติด! ฆ่าโหด 4 ศพ ยิงทิ้ง 3 ยัดเก๋งทิ้งบึง อีก 1 โยนแม่น้ำนราธิวาส





ad1

นราธิวาส-แก๊งทมิฬสังหารโหดชายฉกรรจ์ 4 ศพรวด เหยื่อ 3 ศพแรก ถูกยิงอกพรุนยัดใส่กระโปรงท้ายรถเก๋งยาริสแล้วเข็นรถให้จมน้ำในบึงรือแจ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ส่วนศพสุดท้ายจ่อยิงหัวกบาลทะลุ โยนทิ้งแม่น้ำสุไหงโก-ลก ปล่อยลอยอืดมาติดริมตลิ่ง ห่างจุดพบ 3 ศพแรกถึง 20 กม. ตำรวจคาดฝีมือขบวนการยานรก คนร้ายลงมืออย่างอำมหิต จงใจให้เห็นความเหี้ยมโหด เพื่อให้ผู้ร่วมขบวนการหวาดกลัวไม่กล้าแตกแถว

พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ร.ต.อ.เกียรตินรินทร์ ขาวอ่อน รอง สว. (สอบสวน) สภ.แว้ง ชุดสืบสวน สภ.แว้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ทหาร และฝ่ายปกครอง รุดไปตรวจสอบมีผู้พบศพชายลอยอืดมาติดเขื่อนหินริมแม่น้ำโก-ลก ช่วงบ้านไอร์ปาเซ หมู่ 7 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส พบศพนอนคว่ำหน้า เสื้อเกี่ยวกันลวดของหินกระชุริมเขื่อน กู้ภัยนำร่างขึ้นมาบนฝั่ง พบถูกยิงด้วยปืนเข้าหน้าผากทะลุท้ายทอย 1 นัด เสียชีวิตมา 3-4 วัน นำส่ง รพ.แว้ง ให้แพทย์ชันสูตรศพอย่างละเอียด ต่อมาญาติได้ยืนยันว่าผู้ตายคือนายมูฮเซ็น ยะโกะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/3 หมู่ 6 ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส หายออกจากบ้านไปกว่า 4 วันแล้ว

พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้น่าจะเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 ศพที่พบเมื่อเย็นวันที่ 21 ก.พ. ภายหลัง พ.ต.อ.ฉลอง เล็กน้อย ผกก.สภ.บูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส รับแจ้งพบศพชาย 3 คนถูกฆ่ายัดท้ายกระโปรงรถเก๋งโตโยต้า ยาริส เอทีฟ สีฟ้า 4 ประตู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จมน้ำอยู่ริมบึงจือแร หมู่ 1 ต.แม่ดง อ.แว้ง ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และมูลนิธิกู้ภัยร่วมใจแว้ง พบชาย 3 คนอายุระหว่าง 25-40 ปี ไม่สวมเสื้อ ถูกฆ่ายัดอยู่ในกระโปรงหลังรถเก๋งคันดังกล่าว สภาพศพขึ้นอืดเสียชีวิตมาราว 3 วัน มีบาดแผลถูกยิงตามลำตัว ไม่มีเอกสารหลักฐานระบุว่าเป็นใคร นำศพไปเก็บไว้ที่ รพ.แว้ง

ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพคือ นายนิเฮง ประเปะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/14 หมู่ 1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถูกยิงอก 4 นัด นายมูฮัมหมัดอาลียะ เราะห์มัด อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 หมู่ 4 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ถูกยิงอก 4 นัดเช่นกัน และนายอัสวี มือลี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 3 ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ถูกยิงใต้หูขวาและหน้าอกรวม 3 นัด นำผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพ ส่ง รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หัวกระสุนปืนที่ฝังอยู่ในร่างทั้ง 4 ศพ เก็บไว้เป็นหลักฐาน และขยายผลไปสู่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ รวมทั้งตรวจสอบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส เอทีฟ ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะอำพรางศพ เบื้องต้นทราบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวซื้อขายแบบโอนลอย เจ้าของเดิมอยู่ จ.นครศรีธรรมราช

ทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนายหนึ่งเผยว่า ภาพรวมผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดมีประวัติพัวพันเรื่องยาเสพติด ยกเว้นนายอัสวี มือลี ที่ไม่พบประวัติ ตำรวจตั้งปมการเสียชีวิตในครั้งนี้แบบกว้างๆคือ พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด และปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว เน้นไปที่ประเด็นเรื่องยาเสพติดเป็นหลัก เนื่องจากพฤติกรรมคนร้ายเหี้ยมโหด ฆ่าเหยื่อแล้วนำศพไปทิ้งในที่สาธารณะคล้ายต้องการประจานให้เห็นความอำมหิต เพื่อไม่ให้คนในขบวนการกล้าตีตัวออกห่าง หรือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะมีเกือบ 10 คน หลังสังหารเหยื่อแล้วแยกย้ายกันนำศพไปทิ้งอำพราง 3 ศพแรกนำไปทิ้งในบึงจือแร ส่วนศพสุดท้ายโยนทิ้งแม่น้ำโก-ลก ที่มีระยะห่างกันราว 20 กม.

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 91/14 หมู่ 1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส บ้านของนายนิเฮง ประเปะ หนึ่งในเหยื่อที่ถูกสังหารโหด บริเวณหน้าบ้านพบมีเต็นท์จัดงานกางอยู่ 1 หลัง มีชาวบ้านมาร่วมตกแต่งสถานที่จัดเตรียมงานเพื่อรอรับศพนายนิเฮง หลังจากเจ้าหน้าที่ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ คาดว่าจะเสร็จสิ้นและส่งมาทำพิธีทางศาสนาอิสลามในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้

นายอับดุลอาซิบ ประเปะ อายุ 53 ปี บิดานายนิเฮง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายหายออกจากบ้านไปเมื่อตอน 1 ทุ่ม วันที่ 19 ก.พ. ทางบ้านพยายามติดต่อไปหา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนเพื่อนๆ ที่เสียชีวิตพร้อมกันรู้จักกับลูกชายอย่างดี ไปมาหาสู่กันประจำ และวันเกิดเหตุได้ขับรถมารับลูกชายออกไป ปกติลูกชายทำงานโรงงานปลากระป๋องใน จ.ปัตตานี เพิ่งลาออกกลับมาอยู่บ้านได้แค่ 4 เดือน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทหรือมีปัญหาบาดหมางกับผู้ใด ส่วนตัวเชื่อว่าลูกชายไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการยาเสพติด แต่กลุ่มเพื่อนบางคนจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ อยากให้ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีให้กระจ่าง และจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว