ตำรวจตามรวบยกทีมอุ้มฆ่าหนุ่มส่งอาหารเดลิเวอรี่หมกป่าที่อ.โคกโพธิ์สางแค้นขโมยพระเครื่อง

ปัตตานี-อุ้มฆ่าเผานั่งยางหนุ่มส่งอาหารเดลิเวอรี่ในป่าเหลือแต่ซาก โดยถูกอุ้มมาจากพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ มาเผานั่งยางในป่าพื้นที่อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ตำรวจตามรวบทีมอุ้มฆ่าได้ยกทีม 3 คน หัวโจกเป็นเจ้าของร้านขายน้ำใบกระท่อมแค้นที่ถูกขโมยพระเครื่อง 3 องค์ 

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 16 มี.ค. 66 พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมชุดสืบสวน สภ.โคกโพธิ์ ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา และตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9  เข้าตรวจสอบร่องรอยของการเผานั่งยาง ภายในป่ารกทึบพื้นที่บ้านทุ่งลาน หมู่ 7 ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ซึ่งคาดว่าจะเป็นศพของนายชัชนก รอดขาว อายุ 23 ปี เป็นชาวหมู่ 1 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่ถูกอุ้มหายไปตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 66 ที่ผ่านมา

และคดีนี้ล่าสุดตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้แล้ว 3 คน ตามหมายจับของศาล จ.ปัตตานี ประกอบ นายอเนก รัตนพันธ์ หรือ เนก อายุ 38 ปี  มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 8 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอดุลย์ มีซา หรือ แอ อายุ 33 ปี  มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี  และนายนันทพงษ์ จันทพัฒน์ หรือ เบียร์  อายุ 33 มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยังมีหญิงสาวอีก 1 คนที่รู้เห็นเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่กันไว้เป็นพยาน และจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าอุ้มนายชัชนก มาเผานั่งยางในป่าแห่งนี้

จากการจากการตรวจสอบบริเวณจุดที่เผานั่งยางพบว่าเป็นศพมนุษย์ ลักษณะถูกเผาด้วยยางรถยนต์จนไหม้เกรียมแทบไม่เหลือโครงร่าง โดยพบเศษชิ้นเนื้อ ฟัน หัวเข็มขัด และลวดยางรถยนต์กองรวมกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บเศษชิ้นเนื้อไปตรวจไปตรวจเทียบเคียงกับญาติเพื่อยืนยันว่าเป็น นายชัชนก ที่หายไปหรือไม่ 

ย้อนรอยคดีนี้เมื่อเวลา 08.27 น.วันที่ 24 ก.พ.66 ที่ผ่านมา นายสาชล รอดขาว อายุ 51 ปี ได้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.โคกโพธิ์ แจ้งว่า นายชัชนก ลูกชาย ซึ่งมีอาชีพขับรถส่งอาหารเดลิเวอร์ ได้หายไปไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งปกติลูกชายจะกลับบ้านทุกวันหลังจากเลิกงาน

หลังรับแจ้งทางชุดสืบสวน สภ.โคกโพธิ์ ได้ลงพื้นที่สืบสวนแกะรอยจนทราบว่า เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 23 ก.พ.นายชัชนก ได้ไปที่ร้านร้านขายน้ำใบกระท่อมในพื้นที่หมู่ 1 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และเป็นจุดสุดท้ายก่อนที่จะหายไป 

ตำรวจจึงได้สอบปากคำนางสาวธัชพร เพ็งภัตรา และนายนันทพงษ์ จันทพัฒน์ หรือเบียร์ ซึ่งเป็นลูกจ้างขายน้ำใบกระท่อม ซึ่งทั้ง 2 คน ให้การว่า นายชัชนก ถูกอุ้มไปจากร้านใบกระท่อม

โดยในวันเกิดเหตุ นายชัชนก  ได้เดินทางมาที่ร้านขายน้ำใบกระท่อมซึ่งปกติก็จะมาเป็นประจำ ซึ่งตอนนั้นภายในร้านนอกจากตนทั้ง 2 แล้ว ยังมี นายเอนก ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน และนายอดุลย์ นั่งอยู่ด้วยรวมทั้งหมด 4 คน 

เมื่อ นายชัชนกมาถึงร้าน นายเอนกกับนายอดุลย์  ได้ช่วยกันจับนายชัชนก และนำเชือกสีขาวมาผูกข้อมือไขว้หลังไว้และใช้เทปกาวสีดำปิดปาก

และนายอเนก ได้ชักอาวุธปืนจี้ที่บริเวณศีรษะพร้อมกับพูดจาข่มขู่ และพาตัวขึ้นรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ขบ 3479  กทม. โดยขับมุ่งหน้าออกไปยัง อ.ยะหา จ.ยะลาทันที 

นางสาวธัชพร และนายนันทพงษ์ ลูกจ้างขายน้ำใบกระท่อมยังให้การอีกว่า ตอนที่นายชัชนก ถูกอุ้มขึ้นรถตนทั้ง 2 ได้ขับรถกระบะอีกคันเพื่อตรวจสอบเส้นทาง และพาไปที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในซอยตรงปั้มน้ำมัน ปตท.ยะหา 

จากนั้นนายอเนก กับนายอดุลย์ ได้นำตัว นายชัชนก ลงจากรถพาเข้าไปในบ้าน และสอบถามนายชัชนก  ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องพระของนายเอนก ที่หายไปจำนวน 3 องค์หรือไม่ เพราะนายอเนกสงสัยว่า นายชัชนก เป็นคนขโมยไป

ระหว่างที่ถามนายอเนก ได้นำไม้ไผ่ขนาดเท่านิ้วชี้ ยาวประมาณ 1 เมตร ตีที่บริเวณหัวไหล่ของนายชัชนก  โดยใช้เวลาอยู่ในบ้านหลังนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง 

และพากันขับรถย้อนกลับมาที่ร้านขายน้ำใบกระท่อมจุดเดิม และช่วยกันเข็นรถจักรยานยนต์ของนายชัชนก ขึ้นรถกระบะ พร้อมกับนำตัวนายชัชนก เปลี่ยนมาขึ้นรถยนต์กระบะทะเบียน 1 ตง 8177 กทม. 

โดยมีนายเอนก เป็นคนขับและพามุ่งหน้ามายังพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และรับว่าพามาเผานั่งยางในป่าพื้นที่หมู่ 7 บ้านทุ่งลาน ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เนื่องจากชำนาญพื้นที่

สำหรับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุทั้ง 4 คน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหา  1. ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ 2.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพร่างกาย 3.ร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต.