ตม.สงขลาจับกุม “เจ๊ไม้”หัวหน้าเครื่อข่ายแรงงานเมียนมาเถื่อนข้ามชาติ

ตม.สงขลาจับกุม “เจ๊ไม้”หัวหน้าเครื่อข่ายแรงงานเมียนมาเถื่อนข้ามชาติ





ad1

สงขลา-ตม.จับกุม “เจ๊ไม้”  หัวหน้า เครือข่ายขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติจากเมียนมาไปมาเลเซีย และเป็นตัวการใหญ่สุดในประเทศไทย พบเงินหมุนเวียนในบัญชี6 เดือน 21 ล้านบาท เคยเป็นผู้จัดการบริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ จ.สระแก้ว 

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้สั่งการ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.ซึ่งรับผิดชอบงานสืบสวนปราบปราม ให้ชุดสืบสวน ตม.ทั่วประเทศกวาดล้างจับกุมขบวนการค้าแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายข้ามชาติ โดยเฉพาะที่ผ่านพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์เข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย และตั้งแต่ต้นปีนี้ได้จับกุมไปแล้ว 26 คดี ผู้ต้องหา 35 คน และจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าคดีทั้งหมดเป็นการกระทำผิดในหลายท้องที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มี.ค.66  ที่ศูนย์ปฏิบัติการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรดี รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.รัชพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ ผกก.ตม.จว.สงขลา พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิดำรงชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 มี พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ  ผกก.สส.บก.ตม.6 และ พ.ต.ท.พงษ์ศิริ พิทักษ์  สว.ตม.จว.สงขลา แถลงข่าวการจับกุม นางภาลิณีย์ หรือเจ๊ไม้ อายุ 53 ปี หัวหน้าเครือข่ายขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาร์ข้ามชาติ ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ที่สุดในไทย โดยถูกชุดสืบสวน ตม.จ.สงขลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.3 และ กก.สส.บก.ตม.6 จับกุมได้ขณะกลับมาพักผ่อนที่บ้านพักส่วนตัวในพื้นที่ จ.นนทบุรี

ในทางการสืบสวนพบว่า นางภาลิณีย์ หรือเจ๊ไม้ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการบริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว คือผู้อยู่เบื้องหลังทำหน้าที่ทั้งประสานงานการนำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมาร์ระหว่างนายหน้าชายแดนไทย-เมียนมาร์ กลุ่มรถขนแรงงานต่างด้าว และประสานนายหน้าที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย  และเกี่ยวข้องกับการขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมืองในพื้นที่ภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 7 คดี มีสมาชิกในเครือข่ายที่ถูกจับกุมและถูกออกหมายจับไปแล้ว 13 คน

ซึ่งมีทั้งคนประสานงาน คนขับรถขนส่ง และคนจัดหาที่พัก มีภูมิลำเนาทั้งในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี และ จ.ยะลา  ในจำนวนนี้มีนายมะเพาซี อายุ 43ปี และนายเจษฎา อายุ 28ปี ลูกน้องคนสนิทของเจ๊ไม้  ซึ่งถูกจับกุมไปแล้วรวมอยู่ด้วย  และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมามีเงินหมุนเวียนในบัญชีของเจ๊ไม้ถึง  21 ล้านบาท

พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม. 6 กล่าวว่า จากการสอบสวนเจ๊ไม้ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่าก่อนหน้านี้มีอาชีพรับขนส่งสินค้านำเข้ และจัดหารถโดยสารจากชายแดนไทย-กัมพูชา มายังพื้นที่ภาคใต้ จึงรู้จักคนขับรถขนส่งสินค้าเป็นอย่างดี แต่ในช่วงโควิด 19 ทำให้ชายแดนปิดตัวกระทบถึงธุรกิจขนส่ง จึงหันมาค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติ โดยทำหน้าที่ประสานงานนำพาคนต่างด้าวชาวเมียนมาร์หลบหนีเข้าเมืองจากชายแดน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และส่งต่อเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย  

โดยคิดค่าหัวคนละ 17,500 บาท แยกเป็นค่าใช่จ่ายต่าง ๆ เช่นค่าขนส่งจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ไปยัง จ.สงขลา 4,000 บาท ค่าพักคอยรวมถึงค่าข้าวค่าน้ำ 1,500 บาท ค่าขนส่งไปยังจ.นราธิวาส 2,500 บาท และค่าลักลอบนำพาเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย 8,000 บาท และจากการตรวจสอบประวัต เจ๊ไม้ พบว่าเมื่อ 2 ปี ก่อนเคยถูกจับกุมในคดีเกี่ยวกับการค้าแรงงานเถื่อนที่ จ.จันทบุรี มาแล้วครั้งหนึ่งด้วย

สำหรับ เจ๊ไม้ ได้ถูกแจ้งดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฏหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ขณะนี้ถูกส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวี 

พ.ต.อ.เด่นชาย กล่าวอีกว่า  แม้จะสามารถจับกุม เจ๊ไม้ ซึ่งเป็นตัวการใหญ่เครือข่ายค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติได้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าสืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่อยู่ในเครือข่ายค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติที่ขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ไปยังประเทศมาเลเซียกลุ่มนี้หากเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะออกหมายจับทุกคน และเชื่อว่าการจับกุมเจ๊ไม้ จะเป็นการตัดทอนขบวนการขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติจากเมียนมาร์ ไปยังมาเลเซียโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านลดลง.