ศอ.บต. ตรวจสารพันธุกรรม DNA พิสูจน์สัญชาติไทย คนไทยในมาเลเซียที่มีสถานะตกหล่น

ศอ.บต. ตรวจสารพันธุกรรม DNA พิสูจน์สัญชาติไทย คนไทยในมาเลเซียที่มีสถานะตกหล่น





ad1

ศอ.บต. ตรวจสารพันธุกรรม DNA พิสูจน์สัญชาติไทย คนไทยในมาเลเซียที่มีสถานะตกหล่นทางทะเบียนราษฎรเพื่อเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานจากภาครัฐอย่างเท่าเทียม

ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดโครงการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เพื่อช่วยเหลือคนไทยในมาเลเซียที่มีสถานะตกหล่นทางทะเบียนราษฎร ประจำปี 2566 โดยมี นายบุญพาศ รักนุ้ย รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายภาษิต จูฑะพุทธิกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

ทั้งนี้โครงการนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2560 และเว้นช่วงไปในปี 2563-2565 เนื่องจากเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 และในปีนี้จัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2566 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกงสุลใหญ่  ณ เมืองโกตาบารู ศอ.บต. และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมีสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย อำเภอสุไหงโก-ลก และ อำเภอตากใบเข้าร่วมด้วย โดยผู้ที่เข้าร่วมตรวจสารพันธุกรรม ณ เมืองโกตาบารูในครั้งนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีสถานะตกหล่นทางทะเบียนราษฎรให้ได้รับการตรวจพิสูจน์สัญชาติเพื่อทำให้คนไทยกลุ่มนี้ได้รับสถานะและมีสิทธิในการเข้ารับการบริการจากทั้งสถานกงสุลใหญ่และหน่วยงานต่างๆในประเทศไทยได้อย่างครบถ้วน

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราขับเคลื่อนในเรื่องการตรวจสารพันธุกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนที่ไร้สถานะทางทะเบียนหรือไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นหนึ่งกลุ่มที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านทรงมีความห่วงใยคนที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ตะเข็บชายแดน และข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อประกอบอาชีพซึ่งบางส่วนไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนก็จะมีปัญหาในเรื่องของคุณภาพชีวิต เรื่องการศึกษาเรื่องของการรักษาพยาบาลเรื่องของสิทธิต่างๆ ทาง ศอ.บต. ร่วมกับกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู จึงเริ่มโครงการนี้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2560 ที่ เมืองโกตาบารู และพบว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีพี่น้องประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร หรือไม่มีตัวตนจึงได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่ 5 จังหวัดรวมแล้วประมาณ 2,018 คน และในครั้งนี้ก็กลับมายังเมืองโกตาบารูอีกครั้ง ถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้พี่น้องเหล่านี้เป็นคนไทยที่มีสถานะหรือมีตัวตนอย่างสมบูรณ์ มีสิทธิในฐานะที่เป็นพลเมืองไทย ได้เรียน ได้ทำงาน ได้รักษาพยาบาล การขับเคลื่อนโครงการนี้เป็นโครงการที่มีคุณค่าและมีความหมายมาก เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้เป็นพลเมืองไทยที่มีตัวตนโดยสมบูรณ์

ด้าน นิรุสอามานี ราแด หนึ่งในผู้ที่เดินทางมาตรวจ ตรวจสารพันธุกรรม (DNA) กล่าวว่า เดินทางมาตรวจ DNA เพื่อจะทำบัตรประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าไม่มีบัตรประชาชน จะทำอะไรไม่ได้เลย จะเข้าโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เหมือนไม่มีตัวตนในสังคม หลังจากได้บัตรประชาชนแล้วจะเดินทางกลับประเทศไทยทันที จะกลับไปหางานที่ประเทศไทย ดีใจมากๆที่ทางกงสุลใหญ่ และ หน่วยงานภาครัฐได้อำนวยความสะดวก เปิดโอกาสในการตรวจ DNA เมื่อได้ยินว่าทางกงสุลมีโครงการนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายก็สนใจและมาทันที ขอบคุณทุกหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2560 จนถึง 2566  ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผู้เข้าร่วมตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม 2,018 คน ดำเนินการเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรแล้ว 833 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,185 คนและมีผู้เข้าร่วมพิสูจน์สารพันธุกรรม ณ เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ปี 2560-2563 จำนวน 256 คน ดำเนินการเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรไปแล้ว 141 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ 115 คน และในปี 2566 มีบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม ณ เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย จำนวน 98 คน

โดน...เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา