"เสรี"ซัด"ก้าวไกล" ปลุกมวลชนกดดัน "กกต.-ศาลรธน.-ส.ว."หนุน"พิธา"เป็นนายก

"เสรี"ซัด"ก้าวไกล" ปลุกมวลชนกดดัน "กกต.-ศาลรธน.-ส.ว."หนุน"พิธา"เป็นนายก





ad1

"เสรี"ซัด"ก้าวไกล" ปลุกมวลชนกดดัน "กกต.-ศาลรธน.-ส.ว." ไม่เชื่อ "ชลน่าน" จับมือ "พิธา" ตั้งรัฐบาล ไม่การันตี "พิธา" เป็นนายกฯ

วันที่ 31 มิ.ย.2566 นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมาธิการได้พิจารณาและติดตามสถานการณ์การเมืองเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร  การเลือกนายกรัฐมนตรี รวมทั้งกรณีที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลมีมติตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ที่มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นประธาน และการตั้งคณะทำงาน 7 คณะเพื่อแก้ปัญหาประชาชน การแก้ปัญหาประเทศ และองค์กรต่างๆ ถือเป็นความพยายามสร้างมวลชนกดดันองค์กรต่างๆ ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่อยู่ระหว่างการรับรองส.ส. ศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีหน้าวินิจฉัยประเด็นคุณสมบัตินักการเมืองวุฒิสภา

"กรณีที่จัดตั้ง 7 คณะทำงาน เพื่อนำสถานการณ์ทิศทางไปสู่บริหารประเทศ ผมมองว่าควรจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อย  แต่เมื่อเวลาไม่ลงตัว จึงต้องทำเพื่อสร้างศรัทธาจากมวลชน รวมถึงเรียกมวลชนให้ออกมาปกป้องตนเอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เขาจัดทำขึ้น ขณะนี้ยังมีเวลาเหลืออีกพอสมควรก่อนที่กกต. จะรับรองผลเลือกตั้ง" นายเสรี กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลพยายามสร้างมวลชนเพื่อสู้กับนิติสงครามที่หัวหน้าพรรคเผชิญใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ตนไม่ขอใช้คำรุนแรงแบบนั้น แต่ตอนนี้เห็นว่าเขาพยายามสร้างมวลชนเป็นแรงสนับสนุนและผลักดัน รวมถึงเป็นแรงกดดัน กกต.​ที่ต้องรับรอง ส.ส. ตรวจสอบข้อมูล ก่อนจะประกาศรับรองตามกระบวนการเลือกตั้ง

เมื่อถามย้ำว่า พรรคก้าวไกลใช้มวลชนเพื่อกดดันพรรคเพื่อไทยไม่ให้เป็นคู่แข่งชิงตำแหน่งด้วยหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า  ตนเชื่อว่ากดดันพรรคเพื่อไทยไม่ได้ เพราะพรรคนี้เขามีวิทยายุทธลึกล้ำ และวางสเตปทางการเมืองไว้ว่าจะเดินอย่างไร และสร้างการแสดงออกที่สร้างความเชื่อมั่น เชื่อใจในกลุ่มตั้งรัฐบาล แต่ในอนาคตนั้นตนเชื่อว่าเขาเดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น และเขารู้อยู่แล้ว

เมื่อถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศจะร่วมตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไล มองว่าคือคำการันตีที่นายพิธา จะได้เป็นนายกฯหรือไม่ ประธานกมธ.การพัฒนาการเมืองฯ กล่าวว่า “การันตีไม่ได้ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน สัญญาคือลมปาก  สิ่งที่เพื่อไทยแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ว่าจะสนับสนุนพรรคที่ได้คะแนนมาก แต่เขาก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สุดท้ายหวยก็ออกที่พรรคเพื่อไทย”

เมื่อถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เสนอแคนดิเดตนายกฯจากเพื่อไทยแทนนายพิธา ใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า "เดากันไป"

เมื่อถามว่ามองว่าประเด็นคุณสมบัติ หรือการแก้มาตรา 112 ที่จะทำให้นายพิธาไม่ได้รับการเสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภา นายเสรี กล่าว ตนมองว่าประเด็นการแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคก้าวไกลไม่ยอมถอย และมีเจตนาที่จะเสนอแก้ไข แม้ไม่ระบุไว้ใน MOU ของพรรคร่วมรัฐบาล แต่มวลชนและเจ้าของพรรคก้าวไกลต้องการ ซึ่งตนไม่เข้าใจทำไมนายพิธาต้องยืนหยัดที่จะแก้ไข ทั้งที่ไม่ใช่ปัญหาของบ้านเมือง และตนเชื่อว่าประเด็นนี้จะนำไปสู่ความขัดแย้งของบ้านเมืองได้ในอนาคต