กองปราบปูพรมค้น 8 จุดยะลา-นราธิวาส จู่โจมจับ 5 แก๊งโหด ทวงหนี้ยา อุ้มไปซ้อมแถมขู่ตัดหู

กองปราบปูพรมค้น 8 จุดยะลา-นราธิวาส จู่โจมจับ 5 แก๊งโหด ทวงหนี้ยา อุ้มไปซ้อมแถมขู่ตัดหู





ad1

ผู้การกองปราบฯลุยเอง ยกทีมหนุมานล่องใต้ปูพรมค้น 8 จุด ยะลา-นราธิวาส ล่าแก๊งเรียกค่าไถ่รับจ้างเจ้าแม่ยานรกขอนแก่นทวงหนี้โหด 5 แสนบาท สุดเหี้ยมขู่กรรไกรตัดหูซ้อมเหยื่อปางตาย ญาติเหยื่อต้องหาเงินมาจ่าย 4 แสนบาทถึงปล่อยตัว แต่ไม่หยุดตามข่มขู่ทวงที่เหลืออีก 1 แสนบาท เหยื่อกลัวเข้าแจ้งความตำรวจท้องที่ แต่คดีไม่คืบหน้าเลยพึ่งกองปราบฯตามจับได้ยกแก๊ง 5 คน รวมทั้งผู้ว่าจ้างที่ขอนแก่นด้วย

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผกก.สสน. บก.ป. นำชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมานกองปราบ” ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส รวม 80 นาย เปิดปฏิบัติการ “ขอนแก่นนราล่าปิดบัญชีแก๊งเรียกค่าไถ่โหด” ตรวจค้นเป้าหมาย 8 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.ยะลา 3 จุด จ.นราธิวาส 4 จุด และ จ.ขอนแก่น 1 จุด กวาดล้างจับกุมขบวนการอุ้มเรียกค่าไถ่ทวงเงินยาเสพติด

พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เผยว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 มีกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธบุกเข้าไปอุ้มตัวนายเต๋า (นามสมมติ) ผู้เสียหาย จากบ้านในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พาไปกักขังไว้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งแล้วใช้กำลังทำร้ายร่างกายซ้อมทรมานจนเหยื่อบาดเจ็บสาหัส กระดูกซี่โครงหัก จากนั้นโทรศัพท์ติดต่อหาญาติพี่น้องเหยื่อให้นำเงินสด 5 แสนบาทมาให้เพื่อแลกกับการปล่อยตัวหากไม่ทำตามจะเอากรรไกรตัดหูเหยื่อให้ขาด หรือทรมานจนเสียชีวิต ญาติต่อรองจ่ายให้ก่อน 3 แสนบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยหามาให้ กลุ่มคนร้ายตกลงนัดหมายให้นำเงินมาส่งมอบให้ก่อน 3 แสนบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย. โดยให้นำเงินมาวางไว้ที่ด่านโกลก จ.นราธิวาส เมื่อได้รับเงินแล้วปล่อยตัวนายเต๋าทิ้งไว้ริมถนนห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร

ผบก.ป.กล่าวต่อว่า หลังนายเต๋าได้รับการปล่อยตัวกลุ่มคนร้ายยังโทรศัพท์มาข่มขู่อย่างต่อเนื่องเพื่อตามทวงเงินส่วนที่เหลืออีก 2 แสนบาท ด้วยความหวาดกลัวผู้เสียหายเร่งหาเงินมาให้ก่อน 1 แสนบาทเพื่อให้สถานการณ์เบาลง แต่กลุ่มคนร้ายยังคงพยายามข่มขู่ทวงส่วนที่เหลืออีก 1 แสนบาท ผู้เสียหายตัดสินใจแจ้งความไว้ที่ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส แต่เมื่อเห็นว่าคดีไม่คืบหน้าเกรงจะไม่ปลอดภัยนำเรื่องเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับกองปราบฯ

พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. กล่าวว่า หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่ามูลเหตุมาจากการที่ผู้เสียหายติดค้างเงินค่ายาเสพติดของ น.ส.กัญญ์วรา ช่างเรือนกุล เจ้าแม่ยาเสพติดรายใหญ่ขอนแก่น เป็นคนคอยเชื่อมต่อขบวนการยาเสพติดภาคอีสานกับภาคใต้กว่า 10 ล้านบาท น.ส.กัญญ์วราว่าจ้างแก๊งรับจ้างอุ้มทวงหนี้ประกอบด้วยนายอับดุลรอนิง สาแร๊ะ อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊ง นายแอนดี มามะ อายุ 33 ปี รองหัวหน้าแก๊ง น.ส.อามีเนาะ วงกะลา อายุ 32 ปี คนประสานงานและรับเงิน นายฐิติวิชญ์ กันต์ปวีร์ คนโทรศัพท์ทวงเงิน ส่วนใหญ่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทหารพราน อาสาสมัคร และอดีตสมาชิกกลุ่มผู้ก่อความรุนแรงในพื้นที่มาก่อเหตุ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 5 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยใช้วิธีทรมานทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมาน หรือกระทำทารุณโหดร้าย”

จุดแรกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 992/59 ถนนประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส บ้านพักนายแอนดี ตามหมายจับศาลอาญา บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว เจ้าหน้าที่กระจายกำลังปิดล้อมตรึงพื้นที่รอบตัวบ้าน ส่วนนายแอนดีนอนหลับอยู่ในตัวบ้าน เจ้าหน้าที่เรียกให้เดินออกมาให้จับกุมปฏิบัติการดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังจับกุมนายอับดุลรอนิง สาแร๊ะ อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊ง ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.ยะลา พร้อมกับจับกุม น.ส.กัญญ์วรา ผู้จ้างวาน ได้ใน จ.ขอนแก่น และจับกุมนายฐิติวิชญ์ ได้ที่ จ.ยโสธร ส่วน น.ส.อามีเนาะจับกุมได้ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยึดปืนตามจุดต่างๆได้ 3 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง สอบสวนทั้ง 5 ราย ส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพ มีบางส่วนที่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธ นำตัวส่ง กก.6 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป