กองกำลังสุรนารีจัดกิจกรรม “ปลูกป่าอาเซียน” ตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดนด้านไทย-กัมพูชา

กองกำลังสุรนารีจัดกิจกรรม “ปลูกป่าอาเซียน” ตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดนด้านไทย-กัมพูชา





ad1

พลตรี วีระยุทธ รักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ฝ่ายไทย และ  พลตรี จุย เซยฮา รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4/ผู้บัญชาการยุทธบริเวณพื้นที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ปลูกป่าอาเซียน” ประจำปี 2566 ณ อ่างเก็บน้ำห้วยด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยมีพันเอก จิรัฏ ช่วงฉ่ำ เสนาธิการกองกำลังสุรนารี, พันเอก ธนาธิป เรียงอิศราง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 2, พันเอก จิระกิจ จิตรภักดี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26, ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่, นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นายอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

ส่วนราชการฝ่ายไทย และ พลตรี ฮึม เซียบ รองผู้บัญชาการทหารประจำจังหวัดอุดรมีชัย, พลตรี ซึม เยิน รองผู้บังคับกองพลน้อยทหารราบที่ 42, ฝ่ายกัมพูชา ร่วมให้การต้อนรับ โดยเป็นการดำเนินงานตามโครงการ หมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน แผนงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก จึงได้จัดให้มีกิจกรรมโครงการปลูกป่าอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม ร่วมกันฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

โดยเริ่มจากการปลูกต้นไม้ ซึ่งเป็นการสร้างความอุดมสมบูรณ์ต่อระบบนิเวศ ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อพี่น้องประชาชน ที่มีภูมิลำเนา  ตามแนวชายแดนทั้งไทยและกัมพูชา สร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างหน่วยงานราชการ ภาคธุรกิจ และประชาชน ที่จะร่วมกันทำกิจกรรม ที่สร้างสรรค์เป็นประโยชน์ ต่อชุมชนและสังคม พัฒนาแหล่งต้นน้ำทางธรรมชาติ ให้สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภค และบริโภค อีกทั้งยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด

ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้ดำเนินการในพื้นที่ อ่างเก็บน้ำห้วยด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 5 ไร่ ซึ่งได้รับงบประมาณ สนับสนุนจากกองกำลังสุรนารี องค์การบริหารส่วนตำบลด่าน พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่อำเภอกาบเชิง โดยได้รับการสนับสนุนกล้าพันธุ์ไม้จาก หน่วยจัดการต้นน้ำ ห้วยโตง – ห้วยด่าน   สถานีเพาะชำกล้าพันธุ์ไม้บัวเชด และได้มีพี่น้องประชาชน นักเรียนนักศึกษา พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และอำเภอกรุงสำโรง จังหวัดอุดรมีชัยเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น จำนวน 500 คน

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน