เมียผวา!ผัวเมายาคลั่งหาว่าเมียมีชู้ ถูกขู่ฆ่า บุกทำร้ายพ่อ แถมหลอนหนักเขียนจม.ถึงทนายทั้งคืน

อุทัยธานี - เมียผวา!โร่แจ้งตำรวจ ผัวเมายาคลั่งหนัก หาว่ามีชู้ ขู่ฆ่าถ้าพาลูกหนี ทำร้ายพ่อแท้ ๆ หลอนหนักเขียนจดหมายถึงทนายสงกรานต์ทั้งคืน วอนเจ้าหน้าที่นำตัวผัวไปรักษา หลังเจ้าหน้าที่ไปถึงววิ่งหลบหนีหายขึ้นไปบนป่าเขา

เมื่อเวลา 11:00 น ของวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 สถานีตำรวจภูธรห้วยคตได้รับเหตุว่าผัวเมายาคุ้มคลั่งหวั่นทำร้ายครอบครัว ที่บ้านเลขที่ 20/9 หมู่ 1 บ้านคลองแห้ง ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี หลังจากได้รับแจ้งจนท.ตำรวจรีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พร้อมผู้สื่อข่าว แต่ขณะนั้นผู้เป็นผัวได้หลบหนีออกจากบ้านไปหายขึ้นไปบนป่าเขา ชาวบ้านใกล้เรือนเคียงผวา โทรศัพท์เขายึดไป กุญแจรถเครื่อง กุญแจรถกระบะก็เอาไปหมด ลูกไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ถ้าลูกไปเรียนก็ต้องตามไปอาละวาดอีก แล้วลูกก็ไม่ได้ไปโรงเรียนมาเป็นอาทิตย์แล้วทั้งสองคน ไอ้คนโตตอนนี้ก็เริ่มหมดสิทธิ์สอบแล้ว ส่วนคนเล็กก็คาดว่าจะตกซ้ำชั้นเนื่องจากไม่ได้ไปโรงเรียนเป็นอาทิตย์แล้ว

ทราบต่อมาว่าทางด้านภรรยาที่เป็นผู้แจ้งชื่อนางสาวรสรินทร์ สายแวว อายุ 36 ปี ส่วนทางด้านสามีชื่อนายสุพจน์ อายุ 33 ปี ซึ่งอาศัยอยู่บ้านพักเดียวกัน ขณะนายสุพจน์หรือทางด้านสามีได้หลบหนีหายออกจากบ้านไปหลังเจ้าหน้าที่ไปถึง จึงได้เข้าสอบถามกับทางด้านภรรยาชื่อนางสาวรสรินทร์ ผู้เป็นภรรยา หรือผู้แจ้ง ได้เปิดเผยว่า ตนเองและสามีหรือนายสุพจน์ อยู่ด้วยกันมา 19 ปี ก่อนหน้านี้ทางด้านสามีเคยไปบำบัดเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วก็กลับมาบ้าน พอมา 1 ปีที่ผ่านมา ก็หันมาเสพยาบ้าอีก จนมามีอาการหนักเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา ด้วยอาการคล้ายกับคนหลอนไม่หลับไม่นอนกลางคืนลุกมาเขียนจดหมายถึงทนาย หาว่าตนเองมีชู้ และทำร้ายผู้เป็นพ่อแท้ๆโดยการผลักอก แถมยังเคยถือมีด ขู่ฆ่าลูกและตนเองหากทางด้านภรรยาหนีออกจากบ้านไป

พร้อมกับนำจดหมายที่นายสุพจน์ หรือทางด้านสามีเขียนมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยระบุใจความว่า วอนทนายสงกรานต์ แต่หากว่าเราบ้าเราก็จะบอกเองว่าคนที่เคยหลงผิดเขาไม่เสพยาใช่จะบ้าทุกคนมีแต่ต้องให้กำลังใจพวกและเราคือหนึ่งในนั้นไม่ใช่คิดว่าเขาบ้าเป็นคนไทยด้วยกันต้องให้กำลังใจกัน คนเสพยาบางคนยังดีกว่าคนที่กลั่นแกล้งคนอื่นที่ไปมีทางชู้ พร้อมกับใส่ชื่อนายสุพจน์ ทองสุข อยู่ตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี และทิ้งท้ายว่าเพื่อความปลอดภัยของชีวิตครอบครัวของผมผมจะขอให้สื่อโซเชียลที่คิดดีกับครอบครัวผมช่วยแชร์ไปยังทนายหรือหน่วยงาน และส่วนอีกหน้านึง ได้ระบุใจความว่าขอให้ทนายเอาเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์แก่เยาวชนแต่ถ้าผมไม่ได้กลับบ้านมาอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิมขอให้ทนายดูแลครอบครัวผมและผมแต่ถ้าหากตัวผมตายหรือหายตัวไปนั้นไม่ใช่ว่าตัวผมเองฆ่าตัวตายผมจะไม่มีการฆ่าตัวตายหรือหายตัวไปเป็นอันขาดผมไม่กล้าแจ้งหน่วยงานไกลบ้านจับใจความเนื้อหาได้ประมาณนี้

ล่าสุดนางสาวรสรินทร์ ได้เปิดเผยอีกว่า 4 วันที่ผ่านมานี้ อาการของสามีหรือนายสุพจน์ได้มีอาการหนักเพ้อหวาดระแวงหาว่าตนเองมีชู้ กลางคืนก็ชอบมาเขียนจดหมายเพื่อระบายความในใจ บางครั้งก็อาละวาดเสียงดังถือมีดขู่ พร้อมกับบอกกับทางด้านลูกของตนเองว่าหากพาแม่มึงหนีกูจะขู่ฆ่า และที่สำคัญทั้งด้านสามีคล้ายกับเป็นคนหูแว่วคล้ายจิตหลอน เหมือนคนสองร่าง ทุกวันนี้ตนเองเครียดไม่เป็นอันทำงานต้องอยู่หลบๆซ่อนๆบางครั้งตนเองก็หนีไปนอนบ้านแม่ของตนเอง เมื่อวันก่อนทางด้านสามีหรือนายสุพจน์ได้ทำร้ายด้วยการผักอกทอดแท้ๆจนล้มลง ตนเองจึงหวั่นอันตราย อยากบอลเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวสามีหรือนายสุพจน์ไปรักษาบำบัดอาการให้ดี หากปล่อยไว้ความอันตรายคาดว่าจะเกิดภายในภาคหน้า

จากการสอบถามนายเสียน ทองสุข อายุ 63 ปีซึ่งเป็นพ่อของนายสุพจน์ ได้เล่าเหตุการณ์ว่าตนเองก็อยู่ใกล้บ้านกับนายสุพจน์หรือลูกชายตนเอง เล่าว่าวันก่อนโดนลูกชายผลักอก พร้อมรู้พฤติกรรมของลูกชายดีว่าลูกชายนั้นน่ะเสพยาอยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษาหรือเอาไปบำบัด แต่หากไม่เอาไปบำบัดตนเองก็ห่วงลูกสะใภ้ หวั่นลูกชายตนเองจะไปทำร้ายร่างกายหรือทำอะไรครอบครัวร้ายแรงกว่านี้ พร้อมฝากเจ้าหน้าที่หากไม่นำตัวไปบำบัดตนเองจะให้ลูกสะใภ้เก็บเสื้อผ้าย้ายออกไปจากที่นี่ ซึ่งตนเองขอรับเคราะห์แทนลูกสะใภ้อยากจะทำร้ายอะไรให้มาลงที่พ่อหรือตนเอง

พร้อมกับผู้เป็นแม่ของนายสุพจน์ หรือภรรยานายเสียน ก็เป็นทุกข์ทุกวัน ทราบถึงเหตุการณ์ตลอดที่ผ่านมา เช้านี้ตนเองได้นำยานอนหลับไปให้กับลูกตนเองหรือนายสุพจน์ ทานเพื่อระงับร่างกาย อยากให้นอนหลับ แต่ก็ไม่เป็นผลลูกชายได้หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วก็วิ่งหายขึ้นไปบนเขา อยู่ระหว่างการติดตามตัวนายสุพจน์เพื่อนำไปบำบัดและรักษาร่างกายให้เป็นปกติ