รวบแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าว กว่า 24 คน นั่งเรือข้ามฟากจากเมียวดี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ

รวบแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าว กว่า 24 คน นั่งเรือข้ามฟากจากเมียวดี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ





ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกันจับกุม แรงงานต่างด้าว ทั้งหมดกว่า 24 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว จำนวน 1 คัน
2. กุญแจรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว จำนวน 1 ดอก
3. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ รีโว่ สีเทา จำนวน 1 คัน
4. กุญแจรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ รีโว่ สีเทา จำนวน 1 ดอก
5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
สถานที่จับกุม บริเวณถนนดอนเจดีย์-โคกหม้อ ม.5 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบมาว่าจะมีการขนย้ายบุคคลต่างด้าวโดยรถยนต์เป็นยานพาหนะ นำส่งปลายทางจังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี ชุดจับกุมจึงได้วางแผนสกัดจับรถยนต์ที่ขนย้ายบุคคลต่างด้าว จากการสืบสวนทราบว่าขบวนการขนย้ายบุคคลต่างด้าวใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว ทะเบียนจังหวัดกำแพงเพชร และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ รีโว่ สีเทา ทะเบียนจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ออกตรวจสอบในเขตรับผิดชอบจากการตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ลักษณะตรงกับที่ได้สืบทราบมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าว และได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกให้รถยนต์ต้องสงสัยทั้ง 2 คันจอด เพื่อจะได้ทำการตรวจค้น ปรากฏว่ารถยนต์ต้องสงสัยทั้ง 2 คัน ขับหลบหนี ซึ่งรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ มีลักษณะการขับรถด้วยความเร็ว และขับสวนเลน เป็นการขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่น ในระหว่างติดตามนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.ดอนเจดีย์ ให้สกัดจับรถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าว บริเวณถนนดอนเจดีย์-โคกหม้อ ม.5 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี

เมื่อมาถึงจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.ดอนเจดีย์ รถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าวได้หยุดรถบริเวณถนนดอนเจดีย์-โคกหม้อ ม.5 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม   จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้าทำการตรวจค้น จาการตรวจค้น พบนายฉลองฯ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ พบบุคคลต่างด้าว 12 คน โดยสารมาภายในรถ และพบนายโชคไชยฯ ขับขี่รถยนต์โตโยต้า รีโว่ พบบุคคลต่างด้าว 12 คน โดยสารมาภายในรถ จากการตรวจสอบปรากฏว่าบุคคลต่างด้าวทั้งหมดไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่

จากการสอบถามนายฉลองฯ และนายโชคไชยฯ ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ได้ขับขี่รถยนต์ทั้ง 2 คัน ไปรับบุคคลต่างด้าว ภายในป่าละเมาะ จ.นครสวรรค์ (ไม่ทราบเลขที่ถนน ตำบลและอำเภอ) โดยได้เดินทางออกจากจังหวัดตาก ผ่านจังหวัดกำแพงเพชร, จังหวัดนครสวรรค์ (จังหวัดที่รับตัวบุคคลต่างด้าว), จังหวัดชัยนาท จนมาถึงจังหวัดสุพรรณบุรี (จังหวัดที่ถูกจับกุม) และรับว่าการขนย้ายบุคคลต่างด้าวใน ครั้งนี้ มีปลายทางอยู่ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร มีรถที่ร่วมขบวนการขนย้ายบุคคลต่างด้าวจำนวน 6 คัน เป็นรถนำเพื่อดูเส้นทางหลบหนีและจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 1 คัน และเป็นรถที่ใช้ขนย้ายแรงงาน ต่างด้าว จำนวน 5 คัน ถูกจับกุมในครั้งนี้จำนวน 2 คัน อีก 4 คันที่ได้หลบหนีการจับกุมไปนั้น เจ้าหน้าที่ชุด จับกุมยังไม่ทราบเส้นทางการหลบหนีเนื่องจากไม่พบเห็นรถต้องสงสัยทั้ง 4 คัน ในการขนย้ายบุคคลต่างด้าวครั้งนี้ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 800 บาท ต่อบุคคลต่างด้าว 1 คน จะได้รับค่าตอบแทนเมื่อทำการขนย้ายบุคคลต่างด้าวไปถึงปลายทาง 

จากการสอบถาม บุคคลต่างด้าวที่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ให้การว่าบุคคลต่างด้าวเดินทางมาจาก เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยการนั่งเรือข้ามฝั่งมาทางช่องทางธรรมชาติ มาลงเรือที่ฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก จะมีรถยนต์มารับบริเวณป่าละเมาะซึ่งเป็น จุดที่ลงจากเรือ เพื่อเดินทางต่อไปยังปลายทาง โดยระหว่างการเดินทางมีการสับเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ขนย้าย บุคคลต่างด้าว บริเวณป่าละเมาะ จ.นครสวรรค์(ไม่ทราบสถานที่แน่ชัด) ซึ่งบุคคลต่างด้าวทั้งหมด มีการติดต่อ กับนายหน้าฝั่งประเทศไทยและประเทศเมียนมา โดยบุคคลต่างด้าวต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าฝั่งประเทศเมียนมา เพื่อที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย เป็นจำนวนเงิน 12,000-28,000 บาท โดยนายหน้าฝั่งประเทศเมียนมาเป็นผู้รวบรวมเงินจากฝั่งประเทศเมียนมาเพื่อนำเงินมาให้นายหน้าฝั่งประเทศไทย ก่อนที่บุคคลต่างด้าวจะออกเดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทย และนำส่งบุคคลต่างด้าวไปยังปลายทาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ดังนี้

1. ผู้ต้องหาที่ 1 กระทำความผิดฐาน “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย, ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น, ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานจราจรให้หยุดรถซึ่งผู้ขับขี่ได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการจราจรทางบกหรือกฎหมายอันเกี่ยวกับรถนั้นฯ, ขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาตขับรถ”
2. ผู้ต้องหาที่ 2 กระทำความผิดฐาน “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”
3. ผู้ต้องหาที่ 3-26 กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป