“พิธา”ตกเก้าอี้นายกฯ เต็งหนึ่ง “บิ๊กป้อม”เต็งสอง “เศรษฐา”เต็งสาม “อุ๊งอิ๊งค์”
นับถอยหลังรัฐบาล 66 ในวันที่19 ก.ค.มีวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กูรู ไพศาล ฟันธง ! “พิธา” วืดเก้าอี้นายกฯ เต็งหนึ่ง “บิ๊กป้อม” เต็งสอง “เศรษฐา” เต็งสาม “อุ๊งอิ๊งค์”
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุเนื้อหาว่า อัพเดทการเมือง (17 กรกฎาคม 66)
1. รัฐสภาเปิดสมัยประชุมสมัยแรกตั้งแต่ 3 กรกฎาคม 66 มีกำหนดระยะเวลา 120 วัน ดังนั้นนับแต่วันดังกล่าว รัฐสภา สภาผู้แทนราษฯ และวุฒิสภา ได้เปิดสมัยประชุมแล้ว มีอำนาจหน้าที่ในทางนิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอย่างเต็มที่
ประธานสภาจะเร่งจัดตั้งคณะกรรมธิการต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อเป็นกลไกทำงานของสภา จะรีบบรรจุเรื่องที่ต้องพิจารณา-ญัตติ และกระทู้ ในการประชุมแต่ละครั้งต่อไป
สมาชิกสามารถเสนอญัตติต่าง ๆ และกระทู้ต่าง ๆ ได้ตามข้อบังคับ แม้กระทั่งญัตติ ให้ตั้งคณะกรรมธิการวิสามัญ เพื่อการใด ๆ ได้
2. ในวันที่ 19 จะมีการประชุมรัฐสภา และมี “วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ เนื่องจากการประชุมรัฐสภาครั้งที่ผ่านมายังไม่สามารถให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีได้
ในขั้นตอนการเสนอรายชื่อขอความเห็นชอบนั้น สมาชิกจะเสนอชื่อแคนดิเดตคนเดียว หรือหลายคนก็ได้ และสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้ด้วย
เพราะไม่ใช่เรื่องการเสนอญัตติ แต่เป็นการเสนอตามรัฐธรรมนูญในวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบ
แต่ในทางการเมืองสมควรจะเสนอหรือไม่ ย่อมเป็นเรื่องที่ 8 พรรคร่วมจะต้องหารือกัน ซึ่งน่าจะทราบผลในบ่ายวันนี้
3. คาดว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฯ ที่จะมีขึ้น อาจมีเรื่องญัตติ ในการตั้งคณะกรรมธิการดำเนินการในเรื่องสำคัญ ๆ หลายเรื่อง และน่าจะมีกระทู้ถามในเรื่องเร่งด่วนหลายเรื่อง เช่น เรื่องอาวุธและกระสุนปืนร้ายแรงสูญหายเป็นจำนวนมาก เรื่องการปล่อยให้เรือรบหลวงสุโขทัยจมอยู่ใต้ทะเลถึง 8 เดือนแล้วเหตุใดจึงยังไม่กู้เรือ และใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหาย และอาจมีการเสนอญัตติด่วนให้ตั้งคณะกรรมธิการวิสามัญตรวจสอบการข่มขู่ และการแจกกล้วย เพื่อไม่ให้โหวตเลือกนายพิธา หรือให้โหวตนายพิธา เพราะเป็นเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมายหลายฉบับ
4. มีความเป็นไปได้สูงยิ่ง ที่ลุงป้อมจะได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 376 จากนั้น ลุงป้อมก็ต้องจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกน มีพรรคร่วมคือ เพื่อไทย ภูมิใจไทย ไทยรักษาชาติ ไทยสร้างไทย ชาติไทย โดยมีพรรคก้าวไกล พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน โดยลุงป้อมจะเป็นรัฐมนตรีกลาโหม และพลเอกวิชญ์ อาจจะเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม!!!
โอกาสลำดับสอง คือ นายเศรษฐา จะได้รับความเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นจะมีการตั้งรัฐบาลผสม ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกน โดยมีพันธมิตรเดิม ยกเว้นพรรคเสรีรวมไทย และดึงพรรคภูมิใจไทยมาร่วมรัฐบาล ในกรณีนี้จะมีฝ่ายค้านคือ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ เสรีรวมไทย ชาติไทย และพรรคเล็ก ๆ ในกรณีนี้รัฐบาลผสมจะมีเสถียรภาพมากที่สุด! แต่มีความเสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย แต่ถึงแม้จะถูกยุบพรรคก็ยังมีเสียงมากพอที่จะเป็นรัฐบาลต่อไปได้อีก ช่วงนี้แหละที่คุณอุ้งอิ้งจะเป็นนายกรัฐมนตรี!!!!
#รัฐบาล66
