ด่วน!ก้าวไกล แถลงเปิดทาง"เพื่อไทย" เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล หวังยุติขั้วอำนาจเดิม

ด่วน!ก้าวไกล แถลงเปิดทาง"เพื่อไทย" เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล หวังยุติขั้วอำนาจเดิม





ad1

"ก้าวไกล" แถลงเปิดทาง เพื่อไทย เป็นแกนตั้งรัฐบาล โยน เพื่อไทยตัดสินใจเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ลั่นพร้อมสนับสนุน หวังยุติขั้วเดิมสืบทอดอำนาจ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.ค.2566  นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่า ตามเจตจำนงของประชาชนว่าต้องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลด้วยการลงคะแนนเสียงเลือกก้าวไกลและเพื่อไทยชนะเป็นอันดับ 1 และ 2 เป้าหมายจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จแต่ 2 เดือนที่ผ่านมาชี้ชัดว่าทุกองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยม สถาบันต่างๆ เป็นบริวารแวดล้อมทั้งหมด ไม่ยอมให้ก้าวไกลเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยเอาเรื่องมาตรา 112 มาบังหน้าและอ้างความจงรักภักดีมาปะทะกับการเลือกตั้งของประชาชน ยังเคลื่อนไหวผ่าน กกต.และศาลรัฐธรรมนูญเพื่อหวังตัดสิทธิแกนนำพรรคและยุบพรรคก้าวไกลให้ได้

ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นว่าสว.จึงฝืนมติมหาชนไม่โหวตเลือกนายกฯตามเสียงส่วนใหญ่ของสส. และยังกล้าทำลายหลักการตีความข้อบังคับของรัฐสภาให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เปรียบเสมือนการล้มล้างการปกครองหรือฉีกรัฐธรรมนูญผ่านกฎหมู่ เพื่อขัดขวางเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯครั้งที่ 2

พรรคก้าวไกลไม่ยอมรับการตีความดังกล่าว ภายใต้การทำงานที่สอดประสานกันของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เราจำเป็ฯต้องขอโทษต่อประชาชนและยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าพวกเขาไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล

การที่นายพิธา ไม่สามารถเป็นนายกฯได้ ไม่ได้หมายความว่าภารกิจตั้งรัฐบาลเพื่อพลิกขั้วรัฐบาลจะไม่สำเร็จ เป้าหมายสูงสุดของก้าวไกลยังคงอยู่คือ ตั้งรัฐบาลเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ สิ่งสำคัญขจึงไม่ใช่พิธาจะได้เป็นนายกฯหรือไม่แต่ประเทศหยุดการสืบทอดอำนาจได้หรือไม่ ดังนั้น พรรคก้าวไกลเปิดโอกาสให้ประเทศคือ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล 8 พรรค

ดังนั้นในการประชุมรัฐสภาต่อไปก้าวไกลจะเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ เช่นเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล แต่ยังไม่ได้คุยกับพรรคเพื่อไทย และอยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตนายกฯคนไหนในการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งหน้า