ชาวบ้านเมืองสมุทรปราการโวยเดือดร้อนหนักถูกนิตินำแบริเออร์มาปิดกั้นบริเวณป้อมยามทำให้ไม่สามารถสัญจรได้

ชาวบ้านเมืองสมุทรปราการโวยเดือดร้อนหนักถูกนิตินำแบริเออร์มาปิดกั้นบริเวณป้อมยามทำให้ไม่สามารถสัญจรได้





ad1

เมื่อช่วงสาย วันที่ 9 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซ.โรงพยาบาลเปาโล ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่า นิติบุคคลของหมู่บ้านได้นำแบริเออร์ปูนขนาดใหญ่มาปิดกั้นบริเวณป้อมยามภายในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านด้านในได้รับความเดือนร้อนต้องอ้อมไปออกอีกซอย บางรายขับรถกลับบ้านมาดึก ๆ เกือบชนกับแบริเออร์ดังกล่าวเนื่องจากจุดดังกล่าวมืดและไม่มีไฟส่องสว่าง 


        
หลังรับเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองปากน้ำสมุทรปราการ กำลังใช้รถตักดิน ยกแบริเออร์ออกจากถนนเพื่อเปิดทาง ขณะที่ชาวบ้านท่านหนึ่งขับรถผ่านมาแล้วพูดบ่นถึงการที่นิติบุคคลนำแบริเออร์มาตั้ง ว่า ตนอยู่ที่นี้ขับรถผ่านทางนี้มา 30 ปี เมื่อคืนตนกลับมาจากข้างนอก ขับรถมาก็เจอแบริเออร์ตั้งอยู่หน้าป้อมตนเบรกแทบไม่ทัน ตนก็อยากจะถามว่าเขาทำไปได้ยังไง เอาอะไรคิด ถึงได้เอาแบริเออร์มากั้นถนนแบบนี้ ถ้าตนเบรกไม่อยู่หรือเบรกไม่ทันละ ใครจะไปมองเห็นตรงนั้นเป็นทางโค้งด้วย และตรงที่เขาวางแบริเออร์ก็มืดไม่มีไฟด้วย

นายสุภณัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้ที่พักอาศัยอยู่ด้านใน เล่าว่า เมื่อคืนตอนประมาณตี 1 มีคนเอาแบริเออร์มาปิดกั้นทางเข้าออกของถนนสาธารณะ ในหมู่บ้านพนาสนธิ์ซิตี้ คือถนนเส้นนี้ตั้งแต่ปากซอยมาจนถึงหมู่บ้านด้านในซอยเป็นถนนสาธารณะ ทางนิติบุคคลพนาสนธิ์ซิตี้ เขาได้ทำการเรียกร้องสิทธิเอาถนนสาธารณะคืน ถนนสาธารณเส้นนี้ตนใช้มา 28 ปีแล้ว ก่อนที่นิติบุคคลจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เราก็ใช้เป็นทางสัญจรมาโดยตลอด และร่วมกันใช้มาไม่ว่าจะอยู่ในโครงการจัดสรรหรือไม่ก็ตาม ก็ใช้ร่วมกันมา แล้ว 28 ปีที่ผ่านมาก็เกิดโครงการด้านในเยอะแยะ มีทั้งโรงเรียน ทั้งโรงพยาบาล

และมีหมู่บ้านเกิดต่อไปอีก ทุก ๆ ที่ที่ไปเช็คแล้วถนนเป็นทางสาธารณะ เขาก็สามารถขยายโครงการไปได้ไม่เป็นอะไร อยู่มาวันนึกนิติบุคคลมาปิดทางเพื่อจะเอาเป็นทางของตนเอง ไม่ให้คนอื่นผ่าน โดยไม่สนใจว่าชาวบ้านเข้าออกกันมาเป็นปกติเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ทางเราก็มีการติดต่อกับทางเทศบาลอยู่ว่าถนนเป็นทางสาธารณะเขาจะมาครอบครองได้ยังไง เทศบาลก็ได้ออกมาปกป้องทางสาธารณะ มีป้ายมาติด ทางนิติน่าจะเกิดเคือง นำแบริเออร์มาปิดดังกล่าว เขาเอามาปิดตอนดึก ตื่นเช้ามาก็เจอมันกั้นอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นทางเข้าออกหลักของหมู่บ้าน

ดร. เจต ประภามนตรีพงศ์  ผอ.โรงเรียนประภามนตรี 2 เผยว่า ตนเองก็ไม่ทราบว่านโยบายเป็นอย่างไร โดยที่ตนเองมาอยู่ในหมู่บ้านนี้มา 25 ปี แล้ว ตอนที่มาอยู่ที่นี้ทางบริษัทที่จัดสรรเข้าเชิญให้มาอยู่ เพื่อให้หมู่บ้านมีโรงเรียนให้เยาวชนในหมู่บ้านมีที่ร่ำเรียน โดยตนเองอยู่มา 25 ปี แล้ว ก็เปลี่ยนคณะนิติบุคคลหลายชุด โดยที่นิติชุดปัจจุบันพึ่งตั้งเมื่อปี 55 และ เกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ มาขอให้ย้ายประตู เพราะเขาจะปิดทางเข้าออก ตนเองก็สงสัยอยู่ว่าทางเข้าออกนั้นเป็นทางสาธารณะ ทั้ง 2 เส้น เขาก็จะมาปิด ตนเองยัง งง อยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ส่วนเหตุผลที่เขาบอกนั้น คือ หมู่บ้านด้านในไม่ให้ความร่วมมือ เขาจำเป็นต้องปิด เพื่อให้หมู่บ้านข้างในให้ความร่วมมือ คือ ต้องจ่ายค่าส่วนกลาง หรือ อะไรไม่รู้ ส่วนในของโรงเรียนทางโรงเรียนจ่ายมาแล้ว 25 ปี ซึ่งเมื่อก่อนจ่าย ปี ละ 36,000 คณะกรรมการชุดนี้เข้ามาโรงเรียนต้องจ่าย 136,000 บาท ต่อปี โดยถ้ามีการปิดถนนขึ้นมานั้น นักเรียน ผู้ปกครอง บุคลากรของโรงเรียน ได้รับผลกระทบแน่นอน และ อยากขอความเห็นใจให้พิจารณาเป็นจุดไป