ปปช.ภาค 3 ชี้มูลความผิดนักการเมือง-ขรก.ทุจริต 12 เรื่อง-"พรชัย โค้วสุรัตน์"อดีตนายกเล็กอุบลฯรวยผิดปกติเกือบ 200 ล.

ปปช.ภาค 3 ชี้มูลความผิดนักการเมือง-ขรก.ทุจริต 12 เรื่อง-"พรชัย โค้วสุรัตน์"อดีตนายกเล็กอุบลฯรวยผิดปกติเกือบ 200 ล.





ad1

นครราชสีมา – ปปช.ภาค 3 โชว์ผลงานปี 66 ชี้มูลความผิดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการ จำนวน 12 เรื่อง “พรชัย โค้วสุรัตน์” อดีตนายก อบจ.อุบลราชธานี โดนข้อหาร่ำรวยผิดปกติ เกือบ 200 ล้าน เตรียมยื่นคําร้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ สั่งยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 3 และผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด 8 จังหวัด ในเขตพื้นที่ ป.ป.ช.ภาค 3 ได้แก่ นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ และยโสธร ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 3 และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดในพื้นที่ภาค 3 ประจำปีงบประมาณ 2566 ขึ้น ที่ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 

โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 3 และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดในพื้นที่ภาค 3 ประจำปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ผลงานด้านการปราบปรามการทุจริต, ผลงานด้านตรวจสอบทรัพย์สิน และผลงานป้องปราบการทุจริต โดยเฉพาะในส่วนของผลงานด้านการปราบปรามการทุจริตนั้น มีเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูล จำนวน 12 เรื่อง ซึ่งมีเรื่องที่น่าสนใจอยู่ 3 เรื่อง ได้แก่

เรื่องที่ 1 กรณีนายสมหมาย กอดแก้ว อดีตปลัด อบจ.อำนาจเจริญ ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.อำนาจเจริญ ข้อกล่าวหา กรณีอนุมัติจ้างโดยวิธีพิเศษโดยมิชอบ และเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา กับหน่วยงานของรัฐ พฤติการณ์เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2555 นางวีรภัทรา กาญจนสิงห์ หรือดวงจันทร์ เจ้าพนักงานพัสดุ องค์การบริหารส่วนจังหวัด อํานาจเจริญ ได้ทำบันทึกขออนุมัติจ้างก่อสร้าง โครงการก่อสร้างและปรับปรุงผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายทาง อจ.ถ.10004 แยก ทล.212 (กม.67+400 – บ้านเค็งใหญ่ อําเภอหัวตะพาน โดยวิธี Pavement In – Place Recycling งบประมาณ 9,844,000 บาท และโครงการก่อสร้างและปรับปรุงผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต โดยวิธี Pavement In – Place Recycling สายแยก ทล.2210 (กม.10+ 915 อําเภอหัวตะพาน -บ้านหนองนกหอ อําเภอลืออํานาจ จังหวัดอํานาจเจริญงบประมาณ 9,523,000 บาท

โดยวิธีพิเศษ ผ่านนางดวงอุมา โพธิวัฒน์ผู้อํานวยการกองพัสดุและทรัพย์สิน และนายโกศล การุญญเวทย์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด อํานาจเจริญ ปฏิบัติราชแทนปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอํานาจเจริญ เสนอนายสมหมาย กอดแก้ว ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด อํานาจเจริญ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอํานาจเจริญ โดยนายสมหมาย กอดแก้ว ได้อนุมัติให้จัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ทั้งสองโครงการ ทั้งที่ถนนดังกล่าวไม่ได้เสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดอํานาจเจริญ มีระยะเวลา เพียงพอที่จะดําเนินการจัดจ้างโดยวิธีประกวดราคาด้วยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ จึงยังไม่ถือเป็นเงื่อนไขในการใช้วิธีจัดจ้าง โดยวิธีพิเศษ ซึ่งหากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอํานาจเจริญ ดําเนินการจัดจ้างโครงการดังกล่าวโดยใช้วิธีประกวดราคาด้วยการประมูลด้วย ระบบอิเล็กทรอนิกส์จะทําให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างกว้างขวาง และราชการจะได้รับประโยชน์ คือ สามารถประหยัดงบประมาณก่อสร้าง ในโครงการได้

ซึ่งคําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 98/2565 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติว่า การกระทําของนายสมหมาย กอดแก้ว กับพวก มูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทําการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขัน ราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออํานวยแก่ผู้เข้าทําการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศ คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัย และการดําเนินการทางวินัย ฉบับลงวันที่ 22 สิงหาคม 2544 ข้อ 3 วรรคสาม และข้อ 6 วรรคสอง

เรื่องที่ 2 กรณีนายพรชัย โค้วสุรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.อุบลราชธานี ข้อกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยพฤติการณ์คือนายพรชัย โค้วสุรัตน์ เมื่อครั้งดํารงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี มีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอยู่ในชื่อของ บริษัท เป็นไทยแทรคเตอร์ จํากัด หรือบริษัท อีสานรีช จํากัด และนางสาววิสิฏฐีศรีธัญรัตน์ ราคาประเมินมูลค่า 93,473,640 บาท โดยมีที่ดินอยู่ในชื่อของบริษัท เป็นไทแทรคเตอร์ จํากัด จํานวน 53 แปลง รวมเนื้อที่ 640 ไร่ 84 ตารางวา (ราคาประเมินมูลค่า 82,708,655 บาท อยู่ในชื่อของนางสาววิสิฏฐีศรีธัญรัตน์ จํานวน 22 แปลง รวมเนื้อที่ 122 ไร่ 2 งาน 85 ตารางวา (ราคาประเมิน มูลค่า 10,764,985 บาท คําวินิจฉัยคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายพรชัย โค้วสุรัตน์ เมื่อครั้งดํารงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ร่ํารวยผิดปกติ และส่งรายงานการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นคําร้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ขอให้ศาลสั่ง ทรัพย์สินที่ร่ํารวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และส่งคําวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอํานาจสั่งให้พ้นจากตําแหน่ง และให้ถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่

เรื่องที่ 3 กรณีพลเอก ลือพงศ์ โชติวิทยากาญจน์ หรือพลตรี ลือ วิทยากาญจน์ เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงาน พัฒนาภาค 5 กับพวก ในข้อกล่าวหา ทุจริตต่อหน้าที่และเข้ามีส่วนได้เสียในการดําเนินโครงการฟื่นฟูพื้นที่ต้นน้ําสํานักงานพัฒนาภาค 5 หน่วย บัญชาการกองทัพไทย จํานวน 4 โครงการ 8 ฎีกา เมื่อปีงบประมาณ 2551 จํานวนเงิน 1,825,000 บาท และในการทําสัญญา ซื้ออุปกรณ์หรือเช่าเครื่องมือในโครงการขุดลอกคลอง เพื่อป้องกันอุทกภัยและภัยแล้งในเขตจังหวัดนครราชสีมา เมื่อปีงบประมาณ 2552 จํานวน 115 ครั้ง จํานวนเงิน 7,795,785 บาท นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์มุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคา อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออํานวยแก่ผู้เข้าเสนอราคารายใดรายหนึ่ง

โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำวินิจฉัยว่า พลเอก ลือพงศ์ โชติวิทยากาญจน์ หรือพลตรี ลือ วิทยากาญจน์ เมื่อครั้งดํารงตําแหน่ง ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาภาค 5 กับพวก ทุจริตต่อหน้าที่และเข้ามีส่วนได้เสียในการดําเนินโครงการ นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์ มุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออํานวยแก่ผู้เข้าเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับ สํานักงานพัฒนาภาค 5 หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใด มิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม มีมูลความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157ประกอบมาตรา 91 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิด ทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช 2476 ระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควร จะดํารงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ.2507 และมติสภากลาโหม ครั้งที่ 3/07 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2507 ประกอบ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ.2521 มาตรา 15

ทั้งนี้การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่า จะมีคําพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดต่อไป.

โดย...ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา