ตลาดสัตว์เลี้ยงแข่งเดือด!"เอส.เอ็น.พี.เปเปอร์ แตกไลน์ธุรกิจเร่งเปิดตัว “คาเฟ่แมว”เอาใจทาสเหมี่ยว

ตลาดสัตว์เลี้ยงแข่งเดือด!"เอส.เอ็น.พี.เปเปอร์ แตกไลน์ธุรกิจเร่งเปิดตัว “คาเฟ่แมว”เอาใจทาสเหมี่ยว





ad1

ย่างเข้าสู่ปีที่ 31 มืออาชีพด้านธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบครบวงจร ‘เอส.เอ็น.พี.เปเปอร์ : SNP’  แตกไลน์ธุรกิจ เร่งเปิดตัว ‘คาเฟ่แมว’ เผยข่าวดีโค้งท้ายปีนี้จ่อ MOU กับกลุ่มทุนชั้นนำร่วมลงทุน ผลิตสินค้าป้อนตลาดสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจรกับบริษัท ลูกฟูก ดีไซน์ โซลูชั่น จำกัด(ในเครือ เอ็น.พี.กรุ๊ป) ชี้ปัจจัยบวกครึ่งปีแรก 2566 กวาดรายได้ทะลุเป้า มั่นใจสิ้นปีนี้รายได้แตะ 1.4 พันล้านบาท ส่วนปี 25 67 เอาแน่!! จ่อรุกธุรกิจแฟรนไชส์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

คุณสิทธิพงษ์  ชูนามชัยพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.เอ็น.พี.เปเปอร์ จำกัด หนึ่งบริษัทในเครือ ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ ผู้ผลิตธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบครบวงจร เปิดเผยกับเพจข่าวและเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ www.ucdnews.com ว่า ปี 2566 ย่างเข้าสู่ปีที่ 31 ของการก่อตั้งกลุ่ม ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มฯในช่วงที่ผ่านมาถือได้ว่ามีความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ‘เอส.เอ็น.พี.เปเปอร์’ อานิสงส์เติบโตจากวิกฤติ

สำหรับภาพรวมทางธุรกิจปี 2566 เริ่มฉายภาพจากช่วงแรกของการแพร่ระบาดโควิด-19 แนวโน้มตลาดขณะนั้นยังทรงตัว ช่วงแรกเริ่มปรับตัวครั้งใหญ่ให้อยู่ได้กับโรคร้ายนี้จึงเตรียมความพร้อมรับมือไว้อย่างเต็มที่ โดยใช้โอกาสจากการนำเข้าสินค้านำเอาสิ่งที่ป้องกันแก้ไขโรคร้ายโควิด-19 เข้ามาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ATK แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ฯลฯ จากนั้นทำสภาพแวดล้อมโรงงานให้เป็นโรงงานปิดเพื่อความสะดวกในการควบคุมและบริหารจัดการ ถือเป็นโรงงานแห่งแรกในเขตบางใหญ่ที่คุมเข้มการตรวจตลอดช่วง 6 เดือนถึง 1 ปี จากสัปดาห์ขยับเป็นเดือนต่อเนื่องกันไปจนมั่นใจว่าสามารถรับมือโควิด-19 ได้แล้ว

นอกจากนั้นยังนำวัคซีนชั้นดีอย่างซิโนฟาร์มจำนวนกว่า 400 โดสถูกนำมาฉีดให้กับพนักงาน ดังนั้นด้วยการวางแผนรับมือที่ดี ส่งผลให้ลูกค้ามั่นใจ ทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศผลลัพธ์พบว่าปีแรกยอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเตียงกระดาษหรือเตียงสนามที่ผลิตแทบไม่ทัน ปีที่สองยังเติบโตต่อเนื่อง จึงเร่งสร้างจุดแข็งทางธุรกิจให้ได้โดยเร็ว ควบคู่ไปกับความอยู่รอดขององค์กร ปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายไว้ 1,400 ล้านบาท เพราะเห็นว่าบรรจุภัณฑ์เป็นสินค้าปลายทางหากขาดสิ่งนี้ไปสินค้าก็นำออกไปจำหน่ายไม่ได้

ผ่าแผนลงทุน ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ กว่า 100 ล้าน

ประกอบกับช่วงปลายปี 2565 วิกฤติโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เศรษฐกิจเริ่มขับเคลื่อน แนวโน้มฟื้นตัวเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ต้นปี 2566 และต่อเนื่องถึงกลางปีนี้ภาพรวมดีขึ้น ขณะนี้สามารถทำยอดขายทะลุเป้ากลางปีนี้ได้ตามแผนครึ่งปีที่กำหนดไว้ ดังนั้นทั้งวิกฤติต้มยำกุ้ง น้ำท่วม ภัยแล้ง หรือโควิด-19 ที่ผ่านมาจึงมีผลด้านลบต่อ ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ ไม่มากนักแต่กลับส่งผลด้านอานิสงส์ให้ยอดขายเติบโตดีขึ้น นั่นเป็นเพราะเห็นถึงจุดแข็ง - จุดอ่อนของตลาดได้ชัดเจนกว่า  ดังนั้นโรงงานจึงมีขนาดไม่ใหญ่มาก เน้นเรื่องคุณภาพและศักยภาพที่เหนือกว่า พัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่รายอื่นไม่ได้คิดเหมือน ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ คือแนวคิดที่ว่า…คิดก่อน ทำก่อน ย่อมได้เปรียบก่อน

โดยหลังจากผ่านช่วงกลางปีนี้ดูเหมือนว่าตัวเลขรายได้จะลดลงไปบ้างนั่นเป็นเพราะกำลังซื้อหดหายชะลอตัวไป เพราะภาพรวมทางเศรษฐกิจของโลกและในประเทศยังไม่ดีขึ้น การเมืองยังไม่นิ่ง อีกทั้งจีนปิดประเทศมานาน สินค้าเข้า-ออกจึงกระทบไปด้วย ทำให้กำลังซื้อลดลงตาม เมื่อธุรกิจต่างๆ มีปัญหา ยกเลิกกิจการไปแล้วหลายราย จึงส่งผลให้แรงงานไม่มีกำลังซื้อเพราะตกงานกันเป็นจำนวนมาก แต่แรงงานของ SNP มีเพิ่มเนื่องจากขยายธุรกิจใหม่ด้วยการพัฒนารูปแบบบ้านของน้องแมวออกขายป้อนตลาดโดยทำจากกระดาษ 

ด้านแนวทางการขับเคลื่อนและการขยายธุรกิจของ ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ นั้นเดิมมีแผนลงทุนจัดซื้อเครื่องจักรอีกกว่า 100 ล้านบาท แต่ต้องชะลอออกไปก่อนเพราะยังรอดูทิศทางเศรษฐกิจและการเมืองภายใน-ภายนอกประเทศให้ชัดเจนก่อน อีกทั้งขอดูการปรับอัตราค่าแรงของรัฐบาลว่าจะปรับเพิ่มแค่ไหน อย่างไร ตลอดจนค่าไฟฟ้าในโรงงานและบ้านเรือนประชาชนที่ล้วนเกี่ยวข้องกับต้นทุนการผลิตทั้งสิ้

เบื้องต้นมุ่งเน้นการปรับลดค่าใช้จ่ายภายในบริษัทนำร่องไปก่อน เนื่องจากยังไม่สามารถปรับเพิ่มราคาสินค้าได้ในขณะนี้  อีกทั้งหลังคาโรงงานยังลงทุนติดตั้งระบบโซล่ารูฟเพื่อช่วยด้านการประหยัดพลังงานคิดเป็นงบประมาณกว่า 16 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ในราว 4 ปี และลดค่าใช้จ่ายค่าไฟได้ 25-30% ดังนั้นหลังจากนี้จึงเร่งหางาน-หาเงินเข้ามาเติมเพื่อสร้างรายได้ให้ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ 

เตรียมเปิด ‘คาเฟ่แมว’ รุกตลาดสัตว์เลี้ยง

ล่าสุดในอีกไม่เกิน 2 เดือนนี้เตรียมเปิด ‘คาเฟ่แมว’ สำนักงานใหญ่โซนริมคลองประปามหาสวัสดิ์เพื่อรุกตลาดสัตว์เลี้ยงรับช่วงเศรษฐกิจปีนี้โดยบริษัทในเครือของ ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ นั่นคือ บริษัท ลูกฟูก ดีไซน์ โซลูชั่น จำกัด ที่มีนางสาวชนาณัติ ชูนามชัยพร กรรมการผู้จัดการ เร่งขับเคลื่อนธุรกิจอันถือเป็นการต่อยอดทางธุรกิจของ ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ ได้อย่างสอดคล้องกับปัจจุบัน 

“เชื่อว่าจะสร้างยอดขายได้เดือนละไม่น้อยกว่า 1-2 ล้านบาท สำหรับบริษัท ลูกฟูก ดีไซน์ โซลูชั่น จำกัด ภายใต้การบริหารจัดการของลูกสาวที่ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยมีการผลิตสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงนำร่องอย่างน้องแมวและสุนัขรุกตลาดก่อนเตรียมจะขยายสู่สัตว์เลี้ยงอื่นๆ ด้วยการทดลองแนวโน้มการตลาดจนพบว่าได้รับการตอบรับที่ดี  สินค้าบางรายการแทบผลิตไม่ทัน”

คุณสิทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ได้ให้แนวทางดำเนินธุรกิจแก่ลูกสาวไปว่า อย่าทำการตลาดแบบซ้ำๆ กับคนอื่นต้องฉีกแนวออกไป ภายใต้แพทเทิร์น ( PATTERN ) ของเรา ราคาควรถูกกว่าสินค้านำเข้า จุดเด่นบ้านแมวของบริษัทลูกฟูกฯ จะใช้กระดาษทำชิ้นส่วนทั้งหมด มีความแข็งแรง ออกแบบได้หลากหลาย ล่าสุดนับเป็นข่าวดีที่ผู้ผลิตสินค้าหลากหลายแบรนด์ชั้นนำเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงจะเข้ามาร่วมทุนทางธุรกิจกับบริษัทลูกฟูก ซึ่งถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจและยังเป็นผลเชิงบวกต่อกลุ่มบริษัทของ ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ นั่นเอง ดังนั้นหากมีแนวโน้มที่ดีไม่มีวิกฤติใด ๆเกิดขึ้นอีกยังมั่นใจว่าธุรกิจใหม่นี้จะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาทต่อเดือนได้อย่างแน่นอน

พัฒนารูปแบบเฟอร์นิเจอร์จากกระดาษเพิ่มมูลค่าสินค้า

นอกจากนั้น SNP ยังเน้นรับจัดงานอีเว้นท์สำคัญซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง แต่ละงานจะใช้กระดาษเข้าไปทำเวที ฉากเวทีตลอดจนการประดับตกแต่งจุดต่างๆ หรือทำโต๊ะ เก้าอี้ โซฟาใช้งานจากกระดาษ ออกแบบลวดลายในการนำไปออกบูธแนะนำสินค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น ใช้นวัตกรรมทันสมัย ทำให้การออกบูธแนะนำสินค้าของแต่ละงานสร้างความโดดเด่นที่ไม่ซ้ำใคร ล่าสุดพัฒนารถหรูลัมโบกินี่ทำจากกระดาษคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นบาทก็ทำสำเร็จมาแล้ว

“บ้านแมวนอกจากรุกตลาดทั่วไปแล้วยังเตรียมรุกตลาดผ่านหลายช่องทาง อาทิ ร้านตัดขนสัตว์เลี้ยง รพ.สัตว์ ศูนย์รับฝากเลี้ยงสุนัข-แมว ตลอดจนโครงการบ้านจัดสรรที่เปิดให้โครงการสามารถเลี้ยงสุนัขและแมวตลอดจนสัตว์อื่นไว้ภายในบ้านของโครงการนั้นๆ โดยบ้านของสัตว์เลี้ยงสามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้ด้วยหากมีการชำรุดในระหว่างการใช้งานจึงเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นทางธุรกิจของกลุ่ม ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ ที่เล็งเห็นถึงโอกาสและช่องทางการตลาดแตกต่างจากรายอื่นๆ”

เร็วๆนี้เตรียมเปิดตัว ‘คาร์ซีทแมว’ ป้อนตลาด

คุณสิทธิพงษ์กล่าวต่อว่า แนวคิดของผมแต่ละชิ้นงานต้องการให้เป็นมากกว่ากระดาษธรรมดาๆ ให้สามารถออกแบบใช้งานได้อย่างหลากหลาย ใช้งานได้จริง มั่นคงแข็งแรง คุ้มค่ากับการใช้งานจริงๆ ดัดแปลงให้เป็นมากกว่ากระดาษธรรมดาๆ 
สินค้าที่ผลิตออกมาน้องหมา น้องแมวสามารถใช้งานได้อย่างโดนใจ มีทั้งโยกได้ เคลื่อนย้ายได้ง่าย ตลอดจนนำติดรถออกไปใช้งานนอกบ้านได้อีกด้วย จึงเป็นจุดเด่นสินค้าที่ขายดีไซน์ด้วยตัวสินค้าเอง 

“ในเร็วๆนี้เตรียมเปิดตัว…คาร์ซีทแมว…ป้อนตลาดลูกค้าที่ชื่นชอบพาน้องแมวออกจากบ้านไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ผลิตสินค้าให้แปลกและแตกต่างจากรายอื่นๆ เพื่อนำไปรุกตลาดอีเว้นท์ต่างๆ ควบคู่ไปกับกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคาเฟ่แมว โดยใช้พื้นที่จำนวน 3 ห้องรวมขนาดพื้นที่ 360 ตร.ม. มีทั้งร้านกาแฟให้บริการสถานที่เล่นของแมวไว้ในพื้นที่ด้วยห้องขนาด 5 คูณ 5 เมตรมีอุปกรณ์ให้แมวเล่นไว้ด้วย นอกจากนั้นร้านกาแฟอื่นๆยังสามารถเพิ่มพื้นที่นี้เข้าไปไว้ด้วยเช่นกันเพื่อดึงกลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการในร้าน เท่านั้นยังไม่พอปี 2567 ยังเตรียมเปิดร้านขายอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นมาอีกเพื่อให้ต่อยอดธุรกิจได้อย่างครบวงจรจริงๆ ดังนั้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นเอเย่นต์จำหน่ายสินค้าในอนาคตจึงสามารถมาดูโมเดลสินค้าได้จากคาเฟ่แมวของ บ.ลูกฟูกได้เลย”

แผนปี 67 รุกสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ธุรกิจสัตว์เลี้ยง

ประการสำคัญด้วยจุดแข็งทางเทคโนโลยีของ  ‘เอ็น.พี.กรุ๊ป’ จึงผนึกกับความรู้ความสามารถด้านการออกแบบจากอิตาลีและสหรัฐอเมริกาของน.ส. ชนาณัติ บ.ลูกฟูกฯ ยังเตรียมเปิดธุรกิจแฟรนไซส์จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่องทันทีในปี 2567 โดยตั้งเป้ารุกตลาดทั่วประเทศให้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นหากลูกค้ามีพื้นที่มาก-น้อยจึงสามารถออกแบบธุรกิจให้อย่างสอดคล้องกับการลงทุนได้ทันที

“แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนแรกที่ลูกค้าจะนำสินค้าไปจำหน่าย นั่นคือ บ.ลูกฟูกฯ จะผลิตให้ และโซน 2 คาเฟ่แมว รูปแบบร้านกาแฟเพื่อรองรับคอนักดื่มกาแฟ ลูกค้าแฟรนไซส์จึงมีสินค้าใหม่ๆ ให้รุกตลาดอย่างต่อเนื่องนั่นเอง” คุณสิทธิพงษ์กล่าวในตอนท้าย