แรงงานไทยร้องสส.ราชบุรีวอนรัฐเร่งจัดหาเครื่องบินอพยพหนีสงครามยิว-ฮามาส

แรงงานในอิสราเอลวอนผ่านสส.ราชบุรีฝากถึงรัฐบาลเร่งจัดหาเครื่องบินรับคนไทยกลับบ้าน ลงทะเบียนไว้แต่คิวยาวเริ่มไม่มั่นใจในความปลอดภัย “อัครเดช”แนะรัฐบาลเจรจาซาอุฯหาตลาดแรงงานค่าแรงสูงรองรับหลังจาก“ประยุทธ์”ไปฟื้นสัมพันธ์เอาไว้

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้รับการประสานให้ไปเยี่ยมนายศักดิ์ชัย สันทอง พ่อของนายศิริชัย สันทอง หนึ่งในแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอลซึ่งเป็นคนใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยนายศิริชัยได้ลงทะเบียนขอเดินทางกลับประเทศไทยแต่อยู่ในลำดับที่ 6,000 กว่า

ทั้งนี้ จากการ video call พูดคุยกับนายศิริชัยทราบว่าได้รับการช่วยเหลือให้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แต่จากการพูดคุยตนก็ได้ยินเสียงระเบิดเสียงจรวดจากการสู้รบ และไม่แน่ใจว่าจะถูกโจมตีเมื่อไหร่ ทางนายศิริชัยต้องการให้ทางรัฐบาลไทยได้เร่งรัดรับคนไทยกลับประเทศเพราะคนไทยที่อิสราเอลโดยเฉพาะแรงงานที่อยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอลมีจำนวนมากต้องการเดินทางกลับประเทศไทย แต่มีปัญหาเรื่องเที่ยวบินที่จะเดินทางไปรับคนไทยกลับประเทศ เนื่องจากมีคนไทยแจ้งความจำนงขอกลับมาเป็นจำนวนมาก แต่ยังรอคิวอยู่

นายอัครเดช กล่าวว่า สิ่งที่คนไทยในอิสราเอลอยากจะบอกรัฐบาลคือ อยากจะเร่งรัดให้หาเครื่องบินรับคนไทยกลับมาให้มากกว่าที่เป็นอยู่เนื่องจากยังมีคนไทยตกค้างจำนวนมาก และสิ่งที่แรงงานส่วนใหญ่ต้องการคือการมีงานทำ มีรายได้พอๆ กับประเทศอิสราเอลเพราะแรงงานส่วนใหญ่ล้วนมีหนี้สิน จึงอยากจะให้ทางรัฐบาลติดต่อหางานในประเทศที่แรงงานมีรายได้สูง แต่มีความปลอดภัยกว่า เช่น ซาอุดิอาระเบีย ตนก็อยากให้รัฐบาลได้หางานให้กับแรงงานกลุ่มนี้เนื่องจากยังมีหนี้สินที่ยังตกค้างอยู่ แต่จุดประสงค์หลักคืออยากไปทำงานในประเทศที่ปลอดภัยและมีรายได้ที่พอๆกับประเทศอิสราเอล

“ผมอยากให้รัฐบาลประสานกับทางประเทศซาอุฯ เนื่องจากสมัยที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ไปฟื้นความสัมพันธไมตรีกับทางประเทศซาอุฯ คิดว่าถ้ารัฐบาลได้เจรจากับทางซาอุฯเพื่อรับแรงงานจากอิสราเอลไปทำงานจะเป็นประโยชน์กับแรงงานไทยเป็นอย่างมาก เพราะซาอุฯเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยมากกว่า”โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว