เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้ารถข้ามชาติ-ปลอมป้ายทะเบียน

เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้ารถข้ามชาติ-ปลอมป้ายทะเบียน





ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งปลอมป้ายทะเบียน ค้ารถข้ามชาติครบวงจร ดำเนินการปราบปรามขบวนการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ผิดกฎหมาย สืบเนื่องจาก ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ผิดกฎหมายในทุกรูปแบบมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากพบว่าในปัจจุบัน อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ผิดกฎหมายมีจำนวนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดัดแปลง ปลอมเเปลงข้อมูลรถ, การนำเข้ารถยนต์มาโดยผิดกฎหมายเพื่อนำมาอำพรางและส่งออกขายในประเทศเเละต่างประเทศ, การรับจ้างทำแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายภาษีเเละเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ปลอม โดยกลุ่มผู้กระทำความผิดเหล่านี้ มักจะกระทำการโดยหลบเลี่ยงการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ และกระทำการโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นก็มักจะส่งผลต่อสังคมในวงกว้าง ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน รวมไปถึงในส่วนของภาคประชาชน 

จากนโยบายดังกล่าว จึงนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งปลอมป้ายทะเบียน-ค้ารถข้ามชาติครบวงจร โดยมีการดำเนินการปราบปรามขบวนการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ผิดกฎหมายที่สำคัญดังนี้

กก.6 บก.ป. ทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้ารถยนต์จากประเทศมาเลเซีย ก่อนอำพรางรถโดยใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม นำส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้ารถยนต์จากประเทศมาเลเซีย ก่อนอำพรางรถโดยใช้แผ่นป้ายทะเบียนและเอกสารเกี่ยวกับรถปลอม เพื่อนำส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร, นราธิวาส, ปัตตานี และ สุราษฏร์ธานี รวมจำนวน 12 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 11 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 14 หมายจับ ดังนี้

1.นางมะลิฯ (ยิน เทียน) อายุ 48 ปี (อยู่ในควบคุมของทัณฑสถานหญิง) จำนวน 2 หมายจับ คือ หมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 562/2566 ฐานความผิด “เป็นอั้งยี่, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันตนพีงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, ร่วมกันใช้ผู้อื่นปลอมเอกสารราชการ และร่วมกันใช้เอกสารราชการปลอม" และหมายจับศาลอาญา ที่ 3552/2566 ฐานความผิด "ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยกรการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, ร่วมกันใช้ผู้อื่นปลอมเอกสารราชการ และร่วมกันใช้เอกสารราชการปลอม”

2. นายทองดีฯ อายุ 59 ปี (จับกุมได้ที่ จ.สมุทรสาคร) จำนวน 2 หมายจับ คือ หมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 558/2566 ฐานความผิด "ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม" และหมายจับศาลอาญา ที่ 3551/2566 ฐานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”

3. MR.Maung Lay อายุ 45 ปี (จับกุมได้ที่ จ.สมุทรสาคร) จำนวน 1 หมายจับ หมายจับศาล ที่ 3554/2566 ฐาานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”

4. นายอภิรักษ์ฯ อายุ 27 ปี (จับกุมได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี) จำนวน 1 หมายจับ หมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 561/2566 ฐานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”

5. น.ส.นรูอัสมีราฯ อายุ 28 ปี (จับกุมได้ที่ จ.นราธิวาส) จำนวน 1 หมายจับ หมายจับศาลอาญา ที่ 3555/2566 ฐานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”

6. นายซาพูวันฯ อายุ 29 ปี (จับกุมได้ที่ จ.นราธิวาส) จำนวน 1 หมายจับ หมายจับศาลอาญา ที่ 3556/2566 ฐานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”

7. นายอามันรูเด็งฯ อายุ 53 ปี (จับกุมได้ที่ จ.นราธิวาส) จำนวน 1 หมายจับ หมายจับศาลอาญา ที่ 3558/2566 ฐานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”

8. นายมาซาเอะฯ อายุ 32 ปี (จับกุมได้ที่ จ.นราธิวาส) จำนวน 1 หมายจับ หมายจับศาลอาญา ที่ 3557/2566 ฐานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”

9. นายอิสสะมะแอฯ อายุ 48 ปี (จับกุมได้ที่ จ.นราธิวาส) จำนวน 1 หมายจับ หมายจับศาลอาญา ที่ 3559/2566 ฐานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร, เป็นอั้งยี่ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”

10. นายยงยุทธฯ อายุ 65 ปี (จับกุมได้ที่ จ.นราธิวาส) จำนวน 2 หมายจับ คือ หมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 560/2566 และ ศาลอาญาที่ 3276/2566 ฐานความผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ทั่มั่นคง ท่าเรือ รับอนุญาติหรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร”

11. นาย นิแมฯ อายุ 80 ปี (จับกุมได้ที่ จ.ปัตตานี) จำนวน 1 หมายจับ หมายจับศาลอาญา ที่ 3550/2566 ฐานความผิด“ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องจากผู้อื่นนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ร่วมกันใช้เครื่องหมายที่นายทะเบียนออกให้สำหรับรถคันหนึ่งกับรถอีกคันหนึ่ง”

สืบเนื่องจาก กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม สืบสวนทราบว่ามีขบวนการลักลอบนำรถยนต์จากประเทศมาเลเซียเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยนางมะลิฯ ชาวเมียนมาร์ กับพวก จะลักลอบนำเข้ารถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในประเทศ ก่อนจะนำมาพักไว้ที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อนำไปขายต่อยังประเทศเมียนมาร์ และในประเทศไทย 

โดยจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มของนางมะลิฯ ได้มีการแบ่งหน้าที่กันทำในลักษณะองค์กรอาชญากรรม กระทำการในลักษณะเป็นขบวนการ โดยเมื่อมีลูกค้าจากประเทศเมียนมาร์ หรือคนไทยต้องการสั่งซื้อรถ นางมะลิฯ ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการของกลุ่มเครือข่ายจ.สมุทรสาคร จะติดต่อไปยังกลุ่มเครือข่าย ให้นำเข้ารถมาจากประเทศมาเลเซียโดยผิดกฎหมายผ่านชายแดนภาคใต้ โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร จากนั้นกลุ่มของนางมะลิฯ จะเดินทางไปรับรถในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ก่อนจะนำแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาติดแล้วขับนำรถกลับมาจอดพักไว้ที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อรอนำส่งต่อไปยังประเทศเมียนมาร์

จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มของนางมะลิฯ ได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วกว่า 50 ครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี โดยในวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาสามารถจับกุมนางมะลิฯ กับพวกได้รวม 3 คน ขณะกำลังขับรถยนต์ที่ไปรับมาจากพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดรถยนต์จำนวน 2 คัน จากนั้นจึงได้มีการติดตามยึดรถยนต์ที่นำมาพักไว้ที่ จ.สมุทรสาคร ได้อีกจำนวน 2 คัน 

จากการตรวจสอบรถยนต์ทั้งหมดพบว่าไม่มีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการนำแผ่นป้ายทะเบียนปลอม แผ่นป้ายภาษีปลอม และสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ปลอม มาใช้อีกด้วย จากการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมทำให้พบว่ากลุ่มของนางมะลิฯ มีการสั่งทำแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายภาษี และเอกสารที่เกี่ยวกับรถปลอม เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ทำแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายภาษี และเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ปลอม

โดยในวันที่ 26 กันยายน 2566 สามารถจับกุม เครือข่ายผู้ทำแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายภาษี และเอกสารปลอม จำนวน 3 ราย คือ 
1. นายเนียมฯ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 531/ 2566 ลงวันที่ 25 กันยายน 2566 จับกุมได้ที่ ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
2. นายนิคมฯ อายุ 41 ปี (จับสด) จากการตรวจค้นบ้านพัก ม.11 ต.เมือง อ.เมืองเลย จ.เลย ซึ่งเป็นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่ทำเอกสารปลอม ตรวจสอบพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำเอกสารรถปลอม ทั้งที่เป็นฟอร์มเปล่า และทำเสร็จแล้ว คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์ จำนวนหลายรายการ
3. นายเขมทัตฯ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 532/2566 ลงวันที่ 25 กันยายน 2566 จับกุมได้ที่ ม.3 ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย จ.เลย 

พร้อมของกลางเป็นแท่นพิมพ์ป้ายทะเบียน 1 เครื่อง เครื่องปรินท์ จํานวน 7 เครื่อง ป้ายทะเบียนปลอม จํานวน 50 แผ่น ป้ายภาษีปลอม และ อุปกรณ์การทําป้ายภาษีปลอม สมุดคู่มือจดทะเบียนรถปลอม บัตรประชาชนปลอม รวมของกลาง 33 รายการ นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่านายเนียมฯ และนายนิคมฯ เคยมีประวัติคดีเกี่ยวกับการปลอมป้ายทะเบียนรถมาแล้วคดีอยู่ในชั้นศาล

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการสืบสวนพบเครือข่ายที่ได้ครอบครองรถยนต์ต้องสงสัย ว่าได้มา โดยผิดกฎหมาย จึงได้ทําการสืบสวนติดตามเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง 

โดยสามารถยึดรถยนต์ผิดกฎหมายได้จํานวน 24 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ยี่ห้อ MERCEDES BENZ จำนวน 6 คัน, BMW จำนวน 10 คัน, MINI จำนวน 1 คัน, TOYOTA จำนวน 3 คัน, HYUNDAI จำนวน 1 คัน, MG จำนวน 1 คัน และ MITSUBISHI จำนวน 1 คัน ซึ่งรถทุกคันติดป้ายภาษีปลอม และมีบางคันพบว่ามีการขูดลบแก้ไขเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ 

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถบางราย มีการครอบครองสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน อีกด้วย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายดังกล่าว จนกระทั่งสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งหมด 11 ราย โดยได้สนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และปัตตานี ปฏิบัติการจับกุมกลุ่ม เครือข่ายลักลอบนำเข้ารถยนต์มาจากประเทศมาเลเซียโดยผิดกฎหมาย โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 11 ราย ตรวจยึดของกลางเป็นรถยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ สมุด