“พ่อเลี้ยงคำ ท่า 23”นำผู้ค้าชายแดนแม่สอดร้อง"รมช.เกษตรฯ"แก้ปัญหาค้าโค-กระบือ
ตาก-“พ่อเลี้ยงคำ ท่า 23” พร้อมคณะผู้ประกอบการ การค้า ชายแดนแม่สอด ยื่นหนังสือ ขอ รมช.เกษตร แก้ไขปัญหาและผลกระทบ การค้าโค-กระบือ
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 นายคำ จันทร์บุญ “พ่อเลี้ยงคำ” ผู้ประกอบการ ท่าข้ามริมแม่น้ำเมย ท่า 23 บ้านวังแก้ว ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก และคณะผู้ประกอบการ การนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ และตัวแทนคอกกักกันสัตว์ ได้เดินทางเข้าแสดงความยินดี พร้อมยื่นหนังสือ ขอให้มีการพิจารณานำเข้าน้ำเชื้อโค - กระบือ จากต่างประเทศเข้ามาผสมพันธุ์กับโค - กระบือ ในประเทศไทย ต่อนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อรับฟังปัญหาเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ ประชุมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ. ห้องประชุมเพชรน้ำหนึ่งชั้น 6 เทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมี นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ, ผู้ประกอบการการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ และตัวแทนคอกกักกันสัตว์ ร่วมให้การต้อนรับ และมีผู้เข้าร่วมประชุม ประมาณ 100 คน
นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รอง ผวจ.ตาก กล่าวให้การต้อนรับ และกล่าวสรุปผลการดำเนินการนำเข้า/ส่งออก สินค้าการเกษตร, สินค้าการประมง, และสินค้าปศุสัตว์ โดยที่นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีผลต่อการพัฒนาการค้าตามแนวชายแดน การนำเข้า/การส่งออก สินค้าการเกษตร การแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ เนื่องจากทีผ่านมามีการปิดการนำเข้า/ส่งออก สินค้าปศุสัตว์ และมีกลุ่มผู้ประกอบการยื่นหนังสือให้หยุดการนำเข้า และยื่นหนังสือให้มีการนำเข้า โดยที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้มีการเจรจาทางการค้ากับ จีน และเวียดนาม เพื่อขยายตลาดการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ และเร่งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสินค้าปศุสัตว์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวรายงานมูลค่าการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์, สาเหตุที่ปิดการนำเข้าเนื่องจากที่ผ่านมามีการตรวจพบโรคระบาดจากโค - กระบือ ส่งผลให้ตลาดต่างประเทศหยุดการรับชื้อ ราคาโค - กระบือ ในประเทศราคาตกต่ำ จึงมีการสั่งปิดการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ แต่ยังมีการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ ตามแนวชายแดนของประเทศ
โดยที่ได้รับฟังปัญหา/ความต้องการของผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ และตัวแทนคอกกักกันสัตว์ โดยมี นายคำ จันทร์บุญ “พ่อเลี้ยงคำ” ผู้ประกอบการ ท่าข้ามริมแม่น้ำเมย ที่ประกอบธุรกิจคอกกักสัตว์ -นายปัน ละน้อย นายกสมาคมนำเข้า โค - กระบือ จ.ตาก ขอให้มีการอนุมัติเปิดการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ประกอบการนำเข้า และผู้ประกอบการคอกกักกันสัตว์ ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมปศุสัตว์เมื่อมีการนำเข้า ต้องกักโรค เป็นเวลา 30 วัน ฉีดวัคซีน และพ่นยา เพื่อควบคุมโรค ก่อนกระจายออกสู่ตลาดโค - กระบือในประเทศ และส่งออก
อยากให้เร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ เนื่องจากทำให้ภาคไม่สามารถจัดเก็บภาษีรายได้ และส่งผลกระทบต่อเกษตรตกรผู้เลี้ยงโค - กระบือ รายย่อย โดยตัวแทนคอกกักกันสัตว์แต่ละแห่งในพื้นที่ มีความพร้อมหากมีการเปิดการนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ และให้เร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ตามแนวชายแดน
โดยนายไชยา พรหมาฯ จะมีการขอความร่วมมือกับ จนท.ฝ่ายความมั่นคงตามแนวชายแดนคุมเข้มไม่ให้มีการลักลอบนำเข้า พร้อมทั้งให้ด่านตรวจสัตว์ ด่านกักสัตว์ เข้มงวดใบอนุญาตเคลื่อนย้ายให้ถูกต้อง
และ รมช.เกษตร ฯ จะได้นำข้อมูลที่ได้รับในวันนี้ ไปหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
นอกจากนี้ นายไชยา พรหมา รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ยังได้เดินทางจากเทศบาลนครแม่สอด ไปยังบริเวณพื้นที่ เกาะมะนาว หรือโค้ง 33 บ้านมหาวัน หมู่ 1.ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามจุดลักลอบนำเข้าโค - กระบือ ตามแนวชายแดน โดยมีนายภัทรดนัย อุทัยรัตน์ ปลัดฝ่ายปกครองชำนาญการพิเศษ รักษาการแทนนายอำเภอแม่สอด และทีมชุดปกครอง ร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ ได้กำชับให้ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์แม่สอด ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ได้เข้มงวด กวดขันไม่ให้มีการนำโค - กระบือ จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทย พร้อมทั้งขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการนำเข้าโค - กระบือ ทั้งชาวไทย และชาวเมียนมา ไม่ให้มีการลักลอบนำเข้า ขอให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมปศุสัตว์ เมื่อมีการนำเข้า ต้องกักโรค เป็นเวลา 30 วัน ฉีดวัคซีน และพ่นยา เพื่อควบคุมโรค ก่อนกระจายออกสู่ตลาดโค - กระบือในประเทศ และส่งออก ต่อไป
