ศิษยานุศิษย์นับหมื่นแห่ร่วมงานทอดกฐินวัดสายไหม

ศิษยานุศิษย์นับหมื่นแห่ร่วมงานทอดกฐินวัดสายไหม





ad1

ศิษยานุศิษย์นับหมื่นแห่ร่วมงานทอดกฐินวัดสายไหม รมต.ช่วยเกษตรฯ ร่วมเปิดโรงทานแจกไข่ไก่ นม หมื่นฟอง

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2566 ณ ที่ศาลาการเปรียญ วัดสายไหม ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี สาธุชนและศิษยานุศิษย์ ได้จัดกฐินสามัคคี โดยมีคุณสุขาติ สายด้วง ประธานกรรมการบริษัท เอส. ซี. เอส. แฟบริเคชั่น จำกัด และ คุณสุกาญจนา นาคสัมพันธ์ และครอบครัว ประธานอุปถัมภ์ พร้อมนายไชยา พรหมา รัฐมตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และครอบครัว  น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเสนีย์  มูลขำ สจ. เขต5 อำเภอเมืองปทุม รวมถึงมีบรรดาคณะศิษยานุศิษย์กว่า 10,000 คนเดินทางมาร่วมทำบุญทอดกฐินประจำปี 2566  ซึ่งมี พระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร. เจ้าอาวาสวัดสายไหม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ภายในงาน ศิษยานุศิษย์และประชาชน ได้ร่วมกันตั้งโรงทานกว่า 100 โรงทานเพื่อแจกอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่มให้แก่ประชาชนที่เดินทางเข้ามาร่วมทำบุญทอดกฐินได้รับประทานฟรีตลอดทั้งวัน

ด้านนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยครอบครัว และคณะแล้วได้นำไข่ไก่ จำนวน 10,000 ฟอง และนมกล่อง อีกจำนวน 1,000 กล่องจากกรมกรมปศุสัตว์ มาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ที่เดินทางมาร่วมงาน

จากนั้นผู้เข้าร่วมงานกฐินสามัคคีก็ได้นำกองกฐินเดินเวียน รอบโบสถ์ และมีดนตรีแห่วนรอบอย่างคึกคัก  หลังจากนั้นก็ได้นำกองกฐินสามัคคีเข้าไปในศาลาการเปรียญ ประธานในพิธีได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เพื่อทำพิธีสงฆ์ หลังเสร็จพิธีสงฆ์ประชาชนก็ได้นำกองกฐินมอบให้แก่ พระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร. (หลวงพ่ออ๊อด ปธานิโก) เจ้าอาวาสวัดสายไหมเพื่อนำปัจจัยร่วมสร้างอุโบสถวัดสายไหม แห่งที่2 และเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาโดยวันนี้ประชาชนและสายบุญหลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่เช้าอย่างไม่ขาดสายยอดกฐินทั้งหมด 6,525,740 บาท

โดยงานบุญกฐินแห่งวัดสายไหมแห่งนี้จะมีพุทธศาสนิกชนและผู้เลื่อมใสจะมาจองกฐินกันทุกปีอย่างเนืองแน่นไม่ขาดสาย เจ้าภาพที่จองยอดกฐินหนึ่งกองจะได้พระพุทธชินราช ขนาด 3 นิ้วหนึ่งองค์ และประชาชนชนทั่วไปจะได้รับวัตถุมงคลเป็นพระผงจันทร์ลอย ของหลวงพ่ออ๊อด ปธานิโก กลับไปบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล กันทุกคนที่มาร่วมงานบุญกฐินในวันนี้

หลวงพ่ออ๊อด ท่านได้นำปัจจัยทุกบาททุกสตางค์ มาเพื่อทำนุบำรุงรักษาศาสนสถานอย่างแท้จริง โดยปัจจัยต่างๆที่ญาติโยมถวาย ทั้งหมด ท่านจะนำไปก่อสร้างอุโบสถวัดสายไหมแห่งที่ 2 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะงานสร้างวัดเป็นงานใหญ่ที่ยังจำเป็นต้องใช้ปัจจัยอีกเป็นจำนวนมาก ในการดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อเป็นการสืบสาน ให้พุทธศาสนาได้อยู่คู่กับพุทธศาสนิกชนตราบนานเท่านาน