นักแสดงหนุ่มร้องสื่อไปตัดผมแต่ถูกตัดหูเย็บ 7 เข็ม

นักแสดงหนุ่มร้องสื่อไปตัดผมแต่ถูกตัดหูเย็บ 7 เข็ม





ad1

"โอ๊ต มีล" ร้องถูกช่างตัดผมตัดโดนหู ต้องเย็บ 7 เข็ม ร้านไม่แสดงความรับผิดชอบ ขณะที่ช่างตัดผมเผยลูกค้าอยู่ไม่นิ่ง ยันหลังเกิดเหตุควักเงินส่วนตัวจ่ายค่ารักษาพยาบาล

จากกรณีนักแสดงหนุ่ม ออกมาโพสต์คลิประบาย ขอความช่วยเหลือจากสื่อผ่านช่องทาง TikTok ของตน หลังเดินทางไปตัดผมแต่กลับถูกตัดพลาดไปโดนหู แต่ทางร้านกลับไม่แสดงความรับผิดชอบ จนเวลาล่วงเลยมา 1 เดือน

นักแสดงหนุ่ม ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว โอ๊ตมีล ณัฐพงษ์ คัดทะจันทร์ จากสังกัดบริษัท เอ็มโฟลว์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เล่าว่า ในวันที่ 28 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ตนได้ไปรับบริการตัดผมที่ร้านตัดผม ย่านทองหล่อ แต่ดันเกิดอุบัติเหตุขึ้นคือช่างตัดผมตัดที่ดูเหมือนมีอาการง่วงนอน ตัดพลาดไปตัดโดนติ่งหูด้านขวา จึงทำให้เกิดบาดแผล ทางช่างตัดผมคนอื่นในร้านจึงรีบพาตนไปทำแผลที่โรงพยาบาล ถูกเย็บแผลไปถึง 7 เข็ม โดยหลังจากนั้นทางร้านตัดผมได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตนเพียง 15,375 บาท และไม่มีการรับผิดชอบอะไรเพิ่มเติม

นอกจากนี้ตนยังได้เจรจากับทางช่างตัดผมแล้ว 1 ครั้ง แต่ช่างตัดผมไม่ให้ค่าสินไหมทดแทน แต่จะให้เงิน 1,500 บาทไปทำประกันที่พ่วงกับบัตรเครดิต และอ้างว่าจะดูแลเรื่องแผลเป็นให้ ซึ่งตนยอมให้กับ 2 เรื่องนี้ และรอค่าทำประกันที่พ่วงกับบัตรเครดิต แต่พอเวลาผ่านไปทางต้นสังกัดติดต่อไปกลับเงียบ และไม่มีการรับผิดชอบใด

โอ๊ตมีล ยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องส่งเงินเลี้ยงดูให้กับทางบ้าน พอหมดลังเกิดเหตุตนได้รับผลกระทบจากบาดแผลที่เกิดขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ไปแคสงาน แต่กลับไม่ผ่านเพราะมีรอยแผลเป็นที่ใบหู จึงทำให้เสียงานไป และไม่ได้รายได้ ที่จะต้องส่งไปให้ทางบ้านอีก ทำให้ลำบากใจที่ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองนานกว่า 1 เดือนเต็ม อีกทั้งยังเสียสุขภาพจิต วันนี้จึงต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเอง

หลังจากนี้ ตนคิดว่าหมดช่วงเวลาการรักษาเยียวยาแล้ว และตนถอยให้กับเรื่องดังกล่าวถึง 2 ครั้ง ต่อไปคงต้องให้เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์แก่นักแสดงคนอื่นๆ และประชาชน  

ส่วนร้านตัดผมที่ตนใช้บริการนั้น เป็นร้านตัดผมที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับทางสังกัด นักแสดงทุกคนจึงต้องเดินทางไปใช้บริการร้านตัดผมร้านนี้เท่านั้น  ซึ่งทำฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย  

เบื้องต้น ได้เดินทางเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้ให้ และช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะเดินทางไปแจ้งความเพิ่มเติมอีก

ด้านช่างตัดผม นายคณพศ หรือกล้อง เผยว่า ในวันนั้นคุณโอ๊ตมีล ได้ติดต่อส่วนตัวมาใช้บริการตัดผม และทุกครั้งเวลาตัดผมตนก็จะคุยเล่นกับลูกค้าเป็นประจำ โดยขณะที่เกิดเหตุนั้นลูกค้าหันไปหันมาอยู่ไม่นิ่งตนได้เตือนไปแล้ว จนเกิดเรื่องขึ้น

โดยหลังเกิดเรื่องตนติดคิวลูกค้าอีกสามคิวจึงให้พนักงานที่เคาน์เตอร์ไปส่งคุณโอ๊ตมีลที่โรงพยาบาลก่อน และคอยติดตามสถานการณ์กับพนักงานที่เคาน์เตอร์ตลอดเวลา อีกทั้งยังเสียค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมดในราคา 15,375 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดเป็นเงินส่วนตัวของตน

ต่อมาได้นัดเจรจากับทางคุณโอ๊ตมีลโดยมีตัวแทนบริษัทอีก 2 คนมาเจรจาด้วย ซึ่งได้ข้อตกลงว่า ตนจะดูแลค่าหัตถการ ค่าตัดไหม ค่าเดินทาง หากมีรอยแผลเป็นในอนาคตก็จะช่วยหาคลีนิคให้ ซึ่งส่วนนี้รู้สึกว่าเจรจากันชัดเจนแล้ว ส่วนค่าสินไหม ในการเจรจายังไม่ได้พูดถึงตัวเลขเลยด้วยซ้ำจึงขอชดใช้ด้วยค่าหัตถการแทน

โดยหลังจากวันเจรจาทางบริษัทก็ได้ติดต่อและได้ยื่นข้อเสนอมาว่า ทางบริษัทมีประกันให้ในราคา 1,500-1,600 บาท ตนจึงรับฟังและให้ส่งรายละเอียดมา ก่อนที่จะเสนอให้กับทาคุณโอ๊ตมีล แต่หลังจากนั้นตนยุ่งกับงานจึงลืมเรื่องนี้ไป ทำให้ไม่ได้เข้าไปดูรายละเอียดและจ่ายค่าประกันให้กับคุณโอ๊ตมีลไป แต่กลับมีคำถามมอยู่ในใจว่าหากมีเรื่องเร่งร้อนหรือเร่งด่วนทำไมถึงไม่โทรติดต่อมา  

นายกล้อง เผยอีกว่า  ตนได้ดูแลในส่วนของตนได้ดีที่สุดแล้ว และขอไม่ได้ปฎิเสธกับการกระทำที่เกิดขึ้น เพราะได้รับบาดเจ็บเพราะตนจริง และยินดีที่จะเจรจากับคุณโอ๊ตมีลอีกครั้ง แต่ถ้าหากทางเจ้าตัวลำบากับใจ ก็สามารถให้ทางบริษัทติดต่อมาให้ได้

ส่วนเรื่องง่วงนอนระหว่างตัดผมนั้น ขอชี้แจงว่าหากง่วงนอนจริงลูกค้าอีก 3 หัว หลังจากคุณโอ๊ตมีล ทำไมถึงไม่มีปัญหา ซึ่งสิ่งที่ทำให้คุณโอ๊ตมีลคิดว่าตนง่วงนอนคงเป็นเรื่องของการพูดเล่นว่า “ทำไมวันนี้รู้สึกง่วงๆมึนๆยังไงไม่รู้” เท่านั้น

หากทางคุณโอ๊ตมีลจะดำเนินการตามกฎหมายหรือมีการขึ้นศาล คงต้องว่าไปตามก็กฎหมาย และให้คำพิพากษาเป็นตัวตัดสิน แต่เชื่อว่าสิ่งที่ตนทำนั้นคือตนได้พยายามเยียวยาแล้วอย่างเต็มที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากถึงทุกคนที่ตามกรณีนี้ ว่า อยากให้เปิดใจ อยากให้ฟังความหลายฝ่ายก่อนที่จะตัดสินกัน และตนขอน้อมรับทุกความเห็นและขอไม่ตอบโต้แต่อย่างใด.