สกัดจับหนุ่มขับกระบะขนยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด กระสุน-ปืนสงคราม ส่งนครศรีธรรมราช
ตำรวจ กก.2 บก.ทล. สกัดจับหนุ่มขับกระบะรับจ้าง ประวัติโชกโชนถูกจับมาหลายหน ขนยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด-ปืนสงคราม-กระสุน ส่งภาคใต้ เจ้าตัวสารภาพรับค่าจ้าง 5 แสนบาท ยาบ้ารับมาจากแหล่งใน อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ส่วนปืนสงครามรับมาจาก อ.สังคม จ.หนองคาย
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. พล.ต.ต.ณัฐศัก+ดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปรท. รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอนุพงค์ มะโนสงค์ อายุ 35 ปี ของกลางยาบ้า 3,390,000 เม็ด รถกระบะ 1 คัน ปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ปืนอาก้า 1 กระบอก ปืนลูกโม่ .357 มม. 1 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆ 777 นัด จับกุมได้ที่ริมถนนเพชรเกษม ช่วง กม.475-476 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
สืบเนื่องจากชุดจับกุมพบเบาะแสเครือข่ายยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง เตรียมลักลอบขนยามาส่งให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ ใช้ถนนเพชรเกษมเป็นเส้นทางหลักในการขนลำเลียงจึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งพบรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1 ฒว-4285 กรุงเทพมหานคร ด้านหลังกระบะคลุมผ้าใบสีดำขับผ่านมาในลักษณะต้องสงสัย ส่งสัญญาณเรียกให้หยุดรถเพื่อเข้าตรวจสอบ ก่อนพบยาบ้า 3,390,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่กระบะหลังดังกล่าว จากนั้นชุดจับกุมเข้าตรวจค้นภายในรถอย่างละเอียดพบปืนสงครามและปืนสั้น พร้อมเครื่องกระสุนขนาดต่างๆจำนวนมาก ตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายอนุพงค์รับสารภาพปกติ ประกอบอาชีพรับจ้างขับรถกระบะบรรทุกของทั่วไป ต่อมารับการติดต่อจากเครือข่ายยาเสพติดให้ทำหน้าที่ขนยาเสพติดและอาวุธปืนสงครามพร้อมเครื่องกระสุนไปส่งให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยปืนสงครามพร้อมกระสุนไปรับมาจาก อ.สังคม จ.หนองคาย ส่วนยาบ้าไปรับมาจาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ก่อนหน้านี้เคยถูกจับคดีรับจ้างขนยาเสพติดและปืนสงครามมาแล้ว 5 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 แสนบาท ส่วนครั้งนี้ตกลงค่าจ้างขนกันที่ 5 แสนบาทจะได้รับค่าจ้างเมื่อขนส่งยาบ้าและปืนสงครามไปส่งเรียบร้อย เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้เพื่อจำหน่าย มีอาวุธปืนสงครามไว้ในครอบครอง มีเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีพร้อมขยายผล
