ตำรวจบุกทลายแก๊งปลอมใบกำกับภาษีรัฐสูญกว่าพันล้าน

ตำรวจบุกทลายแก๊งปลอมใบกำกับภาษีรัฐสูญกว่าพันล้าน





ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันตรวจค้น ทั้งสิ้น ๕ จุด
๑.บ้านพักในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ ๖๘/๒๕๖๗ ลง ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น น.ส.พจนีย์ฯ อายุ ๓๖ ปี
๒.บ้านพักในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ ๖๖/๒๕๖๗ ลง ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น น.ส.สายทิพย์ฯ อายุ ๓๖ ปี
๓.บ้านพักในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรีที่ ๖๕/๒๕๖๗ ลง ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น น.ส.สุมาลีฯ อายุ ๕๕ ปี
๔.บ้านพักในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ ๖๗/๒๕๖๗ ลง ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น น.ส.จริยาพรฯ อายุ ๔๑ ปี
๕. บ้านพักในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี ตามคำสั่งให้ตรวจค้น ที่ กค ๐๗๐๓/๔ ลง ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น นายวีระพงศ์ฯ อายุ ๔๔ ปี 

เวลาที่ตรวจค้น วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. 

ผลการตรวจค้นเบื้องต้นสามารถตรวจยึดของกลางได้ ดังนี้
จุดที่ ๑  ของกลางที่ตรวจยึด : รายงานภาษีซื้อ, แบบฟอร์มใบกำกับภาษี, ใบส่งสินค้า, แบบ ภงด.๙๐ ปี ภาษี ๒๕๖๔, รายงานเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินฝากธนาคาร, แบบนำส่งงบการเงิน, ต้นฉบับใบกำกับภาษีและต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน, สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ กว่า ๒๐ ฉบับ 
จุดที่ ๒ ของกลางที่ตรวจยึด : เอกสารเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีปลอม และรายงานใบกำกับภาษีแยกตามลูกค้า, เครื่องประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ CPU ๓ เครื่อง, คอมพิวเตอร์ไอแพด ๑ เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ ๓ เครื่อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 
จุดที่ ๓ ของกลางที่ตรวจตึด : เอกสารการชำระภาษี และ คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ 
จุดที่ ๔ ของกลางที่ตรวจยึด : ต้นฉบับใบกำกับภาษี/ต้นฉบับใบส่งสินค้า จำนวน ๒ กล่อง, ต้นฉบับใบกำกับภาษี/ใบส่งสินค้า/ใบแจ้งหนี้ จำนวน ๑ กล่อง, แบบฟอร์มใบกำกับภาษี, สมุดจดรายละเอียดงาน, โทรศัพท์มือถือ ๒ เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน ๑ เครื่อง
จุด ๕ ของกลางที่ตรวจยึด : คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน ๑ เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ ๑ เครื่อง, เอกสารใบกำกับภาษี, ใบเสร็จรับเงิน, ใบส่งของ ภพ.๓๐ จำนวน ๕ ลัง

พฤติการณ์  เนื่องจาก กก.๒ บก.ปอศ. ได้รับคำร้องเรียนจากพลเมืองดี ว่ามีบุคคลหรือนิติบุคคลกระทำความผิดเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิออก ซึ่งมีการลักลอบออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก คิดเป็นความเสียหายต่อรัฐหลายร้อยล้านบาท โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการเกิดขึ้นจริง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.๒ บก.ปอศ. จึงได้ทำการสืบสวน โดยให้สายลับเจรจาล่อซื้อใบกำกับภาษี จากกลุ่มบุคคลดังกล่าว จำนวน ๕ ครั้ง โดยมีการออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิที่จะออก จำนวน ๓๐ ใบ ต่อมาได้ไปตรวจสอบสถานประกอบการ ซึ่งจดทะเบียนเป็นสำนักงานนิติบุคคล พบว่า ไม่มีลักษณะเป็นสถานประกอบการแต่อย่างใด แต่กลับมีการลักลอบเปิดกิจการเพื่อขายใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการทำลายระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการซื้อขายกันจริง ในส่วนของผู้ออกต้องรับผิดทางแพ่งแล้ว ยังมีโทษทางความผิดใช้ใบกำกับอาญาด้วยในฐานความผิด โดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม ออกใบกำกับภาษีไม่มีสิทธิที่จะออก ส่วนผู้ที่นำใบกำกับภาษีไปใช้ ถือเป็นภาษีซื้อต้องห้ามไม่มีสิทธินำมาใช้เป็นเครดิตต้องรับผิดทางแพ่ง และมีโทษทางอาญาในฐานภาษีปลอมโดยเจตนานำใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี มีโทษต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองแสนบาท


 
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๒ บก.ปอศ. จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอหมายค้น และเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ กก.๒ บก.ปอศ. และเจ้าพนักงานสรรพากร ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้น ทั้ง ๕ จุด พบผู้ต้องหาและตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จากนั้นได้นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.๒ บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหลังจากนี้จะได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีต่อไป