เสี่ยแจ้งความตามหาภรรยาอดีตผู้สมัครสส.หายตัวออกจากบ้านนาน 13 วัน

0 7

จากกรณีผู้ใช้ตับุ๊ก ชื่อ Picknick Pimpisa ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า ฝากช่วยแชร์ ตามหาคนหาย จากไปส่งลูกที่โรงเรียน นางสุพรรณี เชื้อดี กับ ด.ญ.พิมพ์พิศา เชื้อดี ลูกกสาววัย 5 ขวบ หายไปนานกว่า 12 วัน ไร้ร่องรอย ไม่ได้นำโทรศัพท์ติดตัวไป มีเงินติดตัวเพียงเล็กน้อย หากใครพบเบาะแสจนพาไปเจอตัว หรือพามาส่งได้ถึงบ้าน มีเงินรางวัลให้ 30,000 บาท ฝากช่วยแชร์และตามให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ อยากให้น้องมินนี่ได้กลับมาสอบและเรียนปกติ จะเก็บข้อมูลผู้แจ้งเป็นความลับ ติดต่อแจ้งได้ที่เบอร์088 9919192 , 095 6161669 ฝากช่วยกันแชร์เยอะๆ นะครับ”

ซึ่งหลังจากโพสต์ข้อความออกไป มีเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยเบาะแสสุดท้าย ทราบเพียงว่า หายตัวไปขณะไปส่งลูกที่โรงเรียน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งนางสุพรรณี เชื้อดี ภรรยา หรือมะเหมี่ยว เป็นอดีตผู้สมัคร สส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์

นายพงศ์ภูมิพันธ์ เชื้อดี อายุ 42 ปี สามีของนางสุพรรณีฯ เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมกับขอบันทึกประจำวันเพื่อจะนำไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากทางโรงเรียนของลูกสาว โดยนายพงศ์ภูมิพันธ์ เชื้อดี อายุ 42 ปี สามี ได้เล่าเหตุการณ์ในวันที่ภรรยาหายตัวไปให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 16 ก.พ.67 ที่ผ่านมา น้องสาวของตนได้ขับรถไปพร้อมกับภรรยาและลูกสาวเพื่อที่จะไปส่งยังโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา แต่ในระหว่างเดินทางไปนั้นเกิดปัญหารถติดทางภรรยาจึงได้บอกกับทางน้องสาวของตนว่าขอลงก่อนเพื่อที่จะเดินไปส่งลูกที่โรงเรียน หลังจากลงไปสักพักทางน้องสาวของตนก็สงสัยว่าทำไมไปส่งหลานนานน้องสาวจึงได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่าพี่เหมี่ยวหายตัวไปไม่ได้กลับมาขึ้นรถ พอได้ยินดังนั้นตนก็ตกใจจึงได้โทรศัพท์ไปเช็คที่โรงเรียนก็ไม่พบว่าทางภรรยาของตนนั้นไปส่งลูกที่โรงเรียน จึงได้มีการออกตามหาและโทรศัพท์ไปสอบถามเพื่อนของภรรยาทุกคนแต่ก็ไม่พบว่าภรรยานั้นมีการติดต่อกับเพื่อน จากนั้นตนก็เลยไปแจ้งความคนหายหลังจากนั้นตนก็พยายามตามหาโทรศัพท์ไปสอบถามทางบ้านของภรรยาที่อำเภอบ้านเหลื่อมแต่ทางนั้นก็บอกว่าติดต่อไม่ได้เหมือนกันเนื่องจากภรรยาของตนนั้นไม่ได้นำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย วันหนึ่งตนนั้นได้ขับรถไปแอบดูที่บ้านของภรรยาที่อำเภอบ้านเหลื่อมเผื่อว่าทางบ้านของภรรยานั้นปิดบังข้อมูลของภรรยา แต่ก็ไม่พบว่าภรรยาของตนนั้นกลับไปยังบ้านที่อำเภอบ้านเหลื่อม

พงศ์ภูมิพันธ์ เล่าต่อว่า ตนและภรรยานั้นแต่งงานอยู่กินกันมาร่วม 7 ปี ตลอดระยะที่ผ่านมาก็มีปัญหาทะเลาะกันบ้าง มีปากเสียงกันบ้าง ซึ่งทางภรรยาก็มีการหนีออกจากบ้านไปบ้างเป็นบางครั้งแต่ก็ไม่นานประมาณ 2-3 วัน ตนก็ไปรับกลับมา โดยในช่วงก่อนวันที่ภรรยากับลูกจะหายตัวไปนั้นตนและภรรยามีปากเสียงทะเลาะกัน สาเหตุที่ทะเลาะก็มาจากปัญหาทางธุรกิจร้านอาหารที่ทำอยู่ด้วยกันกับภรรยา แต่ตนก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรโดยในวันที่ 16 ก.พ.67 นั้นก็ยังมีการพูดคุยกันดีอยู่ไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นจนกระทั่งภรรยาและลูกของตนนั้นหายตัวไปโดยไม่มีเสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ และมีเงินสดติดตัวไปประมาณ 300 บาท ซึ่งส่วนตัวแล้วตนคิดว่าภรรยาคงแค่น้อยใจที่ตนตำหนิเรื่องงาน แต่ยังคงมีชีวิตอยู่แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ส่วนสาเหตุอื่นนั้นตนยังไม่อยากจะคิดไปไกลกว่านี้เนื่องจากรู้สึกกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับภรรยาและลูกของตน

แต่ก็มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่ตอนแรกนั้นตนไม่ได้คิดแต่พอในตอนนี้มานั่งคิดก็อาจจะมีความเกี่ยวเนื่องกัน เนื่องจากในวันที่ภรรยาหายตัวไปนั้นในช่วงเช้าตนได้มีการสั่งให้ลูกน้องไปรื้อร้านที่ตั้งอยู่ในตลาดแห่งหนึ่งเพื่อที่จะนำมาต่อเติมร้านใหม่เนื่องจากมีปัญหากับเจ้าของตลาด แต่ลูกน้องได้โทรศัพท์มาบอกตนว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน มายืนล้อมที่ร้านเอาไว้และไม่ให้ตนรื้อของออกจากร้านซึ่งในช่วงเช้านั้นเองภรรยากับลูกของตนก็ได้หายตัวไปทั้ง 2 คน แต่ส่วนตัวแล้วไม่อยากให้เกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะกลัวอันตรายจะขึ้นกับภรรยากับลูกสาวของตน จึงอยากอ้อนวอนไปยังภรรยาหากเห็นข่าวนี้แล้วอยากให้กลับมาเพราะลูกน้องที่ร้านก็คิดถึง ปู่กับย่าก็ยังคงรอเพื่อที่จะพบหน้าหลานอีกครั้ง และอยากให้เห็นต่อลูก อนาคตของลูก อยากให้กลับมาเพื่อมาปรับความเข้าใจกัน

ขณะที่ทางด้านพ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายพงศ์ภูมิพันธ์ ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่า นางสุพรรณี เชื้อดี หรือ มะเหมี่ยว ซึ่งเป็นภรรยา และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ลูกสาววัย 5 ขวบหายตัวไปนานกว่า 13 วันนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เร่งสอบปากคำสามีของผู้ที่หายตัวไปเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ที่หายตัวไปทั้งสองคนอยู่ที่ใด แต่เบื้องต้นครอบครัวยังเชื่อว่าทั้งสองคนยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากสามี และภรรยาคู่นี้มักมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบหาตัวทั้งสองคน และหากนางสุพรรณีทราบข่าวว่าสามีกำลังตามหาตัวก็ให้ประสานติดต่อกลับมาโดยเร็ว.