การเมืองแบบเก่ามอง 'ก้าวไกล'ภัยคุกคาม เหตุโตไว-สำเร็จมากไป

การเมืองแบบเก่ามอง 'ก้าวไกล'ภัยคุกคาม เหตุโตไว-สำเร็จมากไป





ad1

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2567 พรรคก้าวไกล จัดประชุมสมาชิกสัมพันธ์และผู้สนับสนุนพรรค แลกเปลี่ยนพูดคุยนโยบายและการทำงานระดับท้องถิ่นใน จ.มุกดาหาร โดยมี นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล และคณะทำงานด้านต่างๆ ร่วมวงแลกเปลี่ยนกับสมาชิกและผู้สนับสนุนที่เข้าร่วม โดยช่วงหนึ่งมีผู้เข้าร่วมสอบถามกับหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถึงกระแสข่าวว่าจะมีการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่ง นายชัยธวัช ได้ตอบคำถามนี้โดยระบุว่า ไม่อยากให้ทุกคนเครียดและกังวล แน่นอนว่าเราต้องช่วยกันปกป้องพรรคอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

นายชัยธวัช กล่าวต่อ แม้หลายคนอาจมีความเครียดและกังวล แต่อยากให้ทุกคนมองย้อนไปเพียง 5 ปีของอนาคตใหม่-ก้าวไกล เราสร้างความเปลี่ยนแปลงมาไกลมากแล้ว ทำลายความเชื่อที่ว่าการเมืองแบบบก้าวไกลไม่มีทางชนะได้ลงไปโดยสิ้นเชิงแล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่ากังวล สิ่งที่เราเผชิญหน้าอยู่เป็นเพราะเราสำเร็จมากเกินไปและเร็วเกินไปสำหรับพวกเขา เราไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าไปถามอาจารย์นิติศาสตร์ทั่วประเทศให้อ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแล้วทุกคนเกาหัวหมด ไม่รู้จะสอนหนังสือนักศึกษาอย่างไรแล้ว เอาหลักกฎหมายมาจับอธิบายไม่ได้

วันนี้เราต้องเผชิญคมหอกคมดาบ แน่นอนว่าหลายคนเหนื่อย เครียด กดดัน แต่ขอให้ดีใจ เพราะมันหมายความว่าเราต้องทำอะไรบางอย่างที่มีความสำคัญมากๆ มีนัยสำคัญจนกระทั่งเขาไม่อยากจะปล่อยเราไว้ ถ้าเราทำงานไปแล้ว 5 ปี ไม่มีใครโจมตีเราเลย ผมคิดว่าล้มเหลว เพราะนั่นหมายความว่าเราไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรที่สะกิดผิวเขาเลย จนเขารู้สึกว่ามีเราอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไร

“แต่เพราะเราทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิม การเมืองไทยและสังคมไทยกำลังเปลี่ยนไปอย่างมากและรวดเร็ว จนไปกระทบกับโครงสร้างอำนาจแบบเดิมที่เขาอยากรักษาไว้ เขาถึงต้องจัดการเราทุกวิถีทาง ต้องใช้องค์กรอิสระและกฎหมายทุกรูปแบบเพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลง และรักษาพื้นที่ทางการเมืองแบบเก่าของกลุ่มอำนาจแบบเก่าเอาไว้ให้มากที่สุด ไม่ให้ถูกรุกและทำลายหรือถูกคุกคามโดยพลังทางการเมืองแบบใหม่ ความคิดแบบใหม่ของประชาชนที่ตื่นตัวขึ้นแล้ว ความเชื่อทางการเมืองแบบใหม่ที่ก้าวกระโดดจนไม่มีใครเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้”

การเมืองแบบเก่าทั้งหมดไม่ว่าจะขัดแย้งกันเองมานานแค่ไหน มองพรรคก้าวไกลเป็นภัยคุกคามที่ต้องจัดการให้ได้ แต่ตนเชื่อ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล อีกฝ่ายก็กังวลใจอยู่ว่าจะหยุดเราได้จริงหรือเปล่า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ผู้บริหารพรรคแค่ 2-3 คน วันนี้การเติบโตของพรรคก้าวไกลไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือชัยธวัช แต่เกิดเพราะทุกคน และมันจะเติบโตขึ้นไปอีก วันนี้มีคนเลือกเรา 14 ล้านคน แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ชอบเราและอยากเลือกเรา แต่ไม่เคยคิดเลือกเรามาก่อน แต่วันนี้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าครั้งหน้าจะเลือกเราไม่รู้อีกกี่ล้านคน

“แน่นอนเราเจอหอกดาบขวากหนามเต็มไปหมด มันเกิดขึ้นเพราะเราสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญและมันไปคุกคามการเมืองแบบเก่าทั้งหมดที่ไม่อยากเปลี่ยนแปลง แต่มองไปข้างหน้าเรามีแต่ทิศทางความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้อีกแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับพรรคก้าวไกล ขอให้เรามุ่งมั่นเดินหน้า ช่วยกันสร้างการเมืองแบบนี้ให้ลงหลักปักฐานมากยิ่งขึ้น ขอให้ช่วยกันทำพรรคการเมืองนั้นให้เป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากเห็นให้ได้และเติบโตไปด้วยกัน”