หนุ่มเพี้ยนบุกยึดบ้านกางมุ้งนอนสบายใจเฉิบ จนท.จับนำส่งภูมิลำเนา

อุทัยธานี-หนุ่มใหญ่ปิคนิคตีเนียน!!อ้างบ้านญาติ  กลางมุ้งนอนสบายใจเฉิบ ผู้ใหญ่บ้านรุดตรวจสอบไม่ใช่คนในหมู่บ้าน แจ้งจนท.นำส่งภูมิลำเนา

เมื่อเวลา 11.30 น ของวันที่ 14 มีนาคม 2567 สถานีตำรวจภูธรลานสักได้รับแจ้งจากนายไพโรจน์ พลอยศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านหนองปลาไหล ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี  ว่ามีชายแปลกหน้าตีเนียนเข้ามา กลางมุ้งนอนบ้านชาวบ้านขณะที่ไม่มีคนอยู่ อ้างบ้านญาติ ทำเอาชาวบ้านระแวกนั้นต่างกลัว เนื่องจากตัวชายดังกล่าวได้มีมีด ติดตัวมาด้วย  หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลานสัก พร้อมผู้ใหญ่บ้าน รีบไปยังที่เกิดเหตุ

พบชายนอนอยู่ที่เปลนอนรับลมอย่างสบายใจเฉิบ จนท.ตำรวจจึงได้เข้าสอบถามชายดังกล่าว ว่ามานอนบ้านชาวบ้านได้อย่างไร ตัวชายดังกล่าวตอบว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของทางญาติตนเอง จนท.จึงขอตรวจร่างกายไม่พบสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใด พบเพียงแต่ถุงป๋ย 2 ถุง ใส่ข้าวของเครื่องใช้ มีบะหมี่กึ่งสำเร็จติดมาด้วย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ.ได้ติดต่อสอบถามกับเจ้าของบ้านทางวีดีโอคอล ว่าเจ้าของบ้านรู้จักชายดังกล่าวไหม เจ้าของบ้านบอกไม่รู้จัก ญาติก็ไม่ใช่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอดูบัตรประชาชนพบว่าชายดังกล่าวชื่อนาย สุชาติ  อายุ 59 ปี อยู่หมู่ 5 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก เพื่อนำตัวนายสุชาติ ส่งกลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมกับเจ้าของบ้านไม่เอาเรื่องในครั้งนี้

ทั้งนี้ได้สอบถามนายไพโรจน์ พลอยศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านหนองปลาไหล ได้เปิดเผยว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาตนเองได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีชายแปลกหน้าเข้าไปนอนกลางมุ้งอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง โดยบ้านหลังนั้นเจ้าของบ้านไม่อยู่ ตนเองจึงรุดไปหาชายดังกล่าวช่วงเวลากลางคืนที่ผ่านมา โดยส่องไฟฉายเข้าไปในระยะไกล เนื่องจากตัวผู้เองก็ไม่รู้จักมาก่อน และไม่กล้าเข้าไปใกล้โดยทราบก่อนหน้านี้ว่าชายดังกล่าวได้มีมีดติดมาด้วย จึงได้ตะโกนสอบถามชายดังกล่าว ชายดังกล่าวได้ตอบกลับมาโดยอ้างว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านญาติของชายดังกล่าว 

และชายดังกล่าวบอกโดนญาติอีกฝั่งหนึ่งจับไล่มา ตนเองได้ยิน จึงได้เดินทางกลับ พอรุ่งเช้าตนเองรู้สึกอดเป็นห่วงชาวบ้านไม่ได้ จึงได้ติดต่อสอบถามชาวบ้านระแวกนี้อีกครั้ง ว่าที่ชายดังกล่าวพูดเป็นความจริงหรือไม่ ที่อ้างว่าเป็นบ้านญาติของชายดังกล่าว ล่าสุดตนเองได้ติดต่อกับเจ้าของบ้านตัวจริง ซึ่งเป็นลูกบ้าน เจ้าของบ้านบอกไม่ใช่ญาติ และไม่รู้จัก จึงได้ติดต่อประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัวชายดังกล่าวส่งกลับบ้านอย่างปลอดภัย ว่าต่อไปอย่าไปหาทำแบบนี้บ้านใครอีก