“พาณิชย์” หนุน “TITA” ผลักดัน “อินฟลู ครีเอเตอร์” ขับเคลื่อนสินค้าไทย

“พาณิชย์” หนุน “TITA” ผลักดัน “อินฟลู ครีเอเตอร์” ขับเคลื่อนสินค้าไทย





ad1

กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ สมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย จัดงาน Creator Selection Thailand ผลักดัน “อินฟลู ครีเอเตอร์” การค้าแนวใหม่ขับเคลื่อนสินค้าไทย หนุนออกใบประกอบวิชาชีพ ยกระดับมาตรฐานอินฟลูเอนเซอร์ไทยสู่ระดับสากล

ดร.ภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ และนายก่อพงศักดิ์ ตันติศิริรักษ์ นายกสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย (TITA) ร่วมเปิดงาน Creator Selection Thailand โดยมีครีเอเตอร์กว่า 400 รายร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “สมาคมอินฟูลเอ็นเซอร์ไทย” ที่จับมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการผลักดันครีเอเตอร์ไทยไปสู่ตลาดโลก

ดร.ภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง กล่าวว่า รูปแบบการค้าในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ความนิยมและอิทธิพลของ อินฟูลเอ็นเซอร์ ถือว่าเป็นบทบาทสำคัญ ต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค ทั้งการเติบโตของตลาดออนไลน์ และ e-commerce ในอนาคต ก็ต้องพึ่งพาคอนเทนต์ที่น่าดึงดูดเพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อสินค้า ซึ่งถือเป็นบทบาทของ ครีเอเตอร์ หรือผู้สร้างคอนเทนต์โดยในปัจจุบัน มี ครีเอเตอร์ กว่า 51 ล้านคนทั่วโลก มีรายได้รวมต่อปีกว่า 16,800 ล้านดอลลาร์ ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับภาคเอกชน และผู้ผลิตซีรีส์วาย ซีรี่ส์ยูริ เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สินค้าแบรนด์ไทย 

“การมีอินฟูลเอ็นเซอร์คนไทย ที่มีความเข้าใจวัฒนธรรมของผู้บริโภค ภายในประเทศ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการผลักดันการขายสินค้าจากธุรกิจไทยต่อตลาดออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสใหม่สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยังช่วยเผยแพร่สินค้าไทยสู่สายตาชาวโลกโดยมีครีเอเตอร์เป็นผู้ช่วยสนับสนุนผลักดันเศรษฐกิจผ่านการขายสินค้าบนโลกออนไลน์” ดร.ภัณฑิลกล่าว

ด้าน นายก่อพงศักดิ์ ตันติศิริรักษ์ นายกสมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย หรือ “TITA” เปิดเผยว่า “สมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย” ก่อตั้งด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อขับเคลื่อนการค้าในยุคดิจิทัล ผ่านกลุ่มอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อทางการตลาดให้กับแบรนด์ต่างๆ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตของมูลค่าตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงนั้นมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของลูกค้าเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ TITA มีแผนที่จะปั้นอินฟลูเอนเซอร์หน้าใหม่เข้าสู่ตลาดการค้าออนไลน์เพื่อส่งเสริมอาชีพให้คนไทย

นายก่อพงศักดิ์ กล่าวต่อว่า TITA มองเห็นถึงช่องว่างของการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทยที่ยังต้องได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบท่ามกลางการเติบโตของมูลค่าเงินที่สูงขึ้นในทุกๆ ปี หากมีการจัดการที่ถูกต้อง และได้มาตรฐานจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะถูกโกงหรือสร้างความเข้าใจผิดระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ถูกจ้าง นอกจากนี้ TITA ยังเป็นตัวช่วยในการบริหารภาษีเงินได้ที่หากจัดการไม่ถูกต้องแล้วจะเกิดการเรียกเก็บภายหลังได้ TITA จะเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริม สนับสนุน สร้างความเข้มแข็ง และคุ้มครองอินฟลูเอนเซอร์และผู้ว่าจ้างต่างๆ ผ่านการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น การจัดให้มี “ครีเอเตอร์อคาเดมี (Creator Academy)” ที่จะช่วยพัฒนาและเพิ่มพูนทักษะอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ให้เทียบชั้นอินฟลูเอนเซอร์แนวหน้าของประเทศไทยและสร้างมาตรฐานรายได้พร้อมมอบใบรับรองมาตรฐานวิชาชีพ อีกทั้งให้คำปรึกษาเรื่องการบริหารภาษี ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายเมื่อถูกเอาเปรียบ รวมถึงการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น

ในอนาคตสมาคมฯ มีแผนที่จะคัดเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ความรู้ความสามารถที่ดีที่สุดในประเทศโดยจัดการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาตัวแทนจากแต่ละจังหวัดเพื่อมาร่วมแข่งขันในรายการผ่านแพลตฟอร์มโทรทัศน์หรือออนไลน์ ในการแข่งขันนั้นตัวแทนจังหวัดจะนำเสนอขายสินค้าไทยเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นและประเทศ โดยร่วมมือกับภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ผลักดันสินค้าไทยไปสู่ตลาดสากล ในขณะเดียวกันก็จะร่วมมือกับภาคเอกชนอย่าง“SHOPGENIX” ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านเทคนิคการขายให้กับอินฟลูเอนเซอร์โดยจัดตั้งสถาบันปั้นครีเอเตอร์ให้สามารถสร้างรายได้ใน tiktok อย่างมืออาชีพ และชูสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ (Soft power) อย่างแบรนด์ “นาถะ (NATHA)” ผลิตภัณฑ์ของคนไทยที่มีดึงเอาเอกลักษณ์ของสมุนไพรไทยแบบดั้งเดิมมาสร้างสรรค์เป็นสินค้าที่หลากหลาย  แบรนด์ “สิรินัมเบอร์ส (Siri Numbers)” เครื่องประดับมงคลสายมูเตลูชื่อดังที่ได้รับการปลุกเสกมาเป็นอย่างดี ส่งเสริมการเผยแพร่ความศรัทธาของคนไทย 

“สมาคมการค้าอินฟลูเอนเซอร์ไทย มุ่งมั่นที่จะร่วมผลักดันเศรษฐกิจไทยผ่านการร่วมมือกับทั้งภาครัฐและเอกชนในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เพิ่มขึ้นและมีการเติบโตในระยะยาวเพื่อก้าวสู่เวทีการค้าระดับโลกในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแข็งแกร่งและไม่เป็นรองใคร” นายก่อพงศักดิ์ กล่าวย้ำ